นักวิชาการ ประสานเสียง ชี้ปม ‘กราดยิง’ รากปัญหา ระบบตำรวจ-กองทัพ ถามรัฐบาล จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกได้อย่างไร
วันที่ 7 ต.ค.65 ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็น กรณี อดีตตำรวจ ก่อเหตุกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ที่ จ.หนองบัวลำภู ความว่า ในสหรัฐอเมริกาการกราดยิงประชาชน หรือเด็กนักเรียน แม้จะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่เท่าที่ผมทราบคือไม่มีสักครั้งที่คนลงมือจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะที่ผู้ลงมือกราดยิงในประเทศไทย 2-3 ครั้งที่ผ่านมา ล้วนแต่เป็นทหารหรือตำรวจทั้งสิ้น
เหตุการณ์ที่หนองบัวลำภู ผู้ลงมือ คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ แม้จะถูกให้ออกจากราชการแต่ก็ยังไม่นาน ส่วนที่นครราชสีมาเมื่อ 2 ปีก่อน คนกราดยิงก็เป็นทหาร
แต่ที่หนองบัวลำภูน่าตกใจและเศร้าสลดกว่ามาก เพราะนอกจากจำนวนผู้เสียชีวิตจะมากกว่าแล้ว ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงเด็กเล็กๆ แบบที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครใจร้ายทำกับพวกเขาได้ลงคอแบบนี้
การที่คนก่อเหตุทั้งสองครั้งเป็นทหารและตำรวจ ไม่น่าจะเป็นเพียงปัญหาที่ตัวคนลงมือที่เครียดหรือติดยาเท่านั้น แต่น่าจะเป็นปัญหาบางอย่างภายในกองทัพและในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ต้องแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก
สิ่งที่ประชาชนอยากได้ยินจากรัฐบาล คือจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีกได้อย่างไร และกองทัพ-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดูแลเจ้าหน้าที่ที่มีปืนไม่ให้เอาปืนมากราดยิงประชาชนและเด็กๆ อีกได้อย่างไร!
ขอแสดงความเสียใจต่อคุณพ่อคุณแม่และผู้สูญเสียทุกท่าน เราทุกคนขอเป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้เด็กๆ ทุกคนหลับให้สบาย และจากนี้ไปขออย่าให้มีเด็กคนไหนโดนกระทำอย่างนี้อีกครับ
ขณะที่ ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว ระบุว่า ผู้ก่อการสูบยาบ้ามานาน แต่ยังคงรับราชการตำรวจ เพิ่งโดนไล่ออกปีที่แล้ว หลังเกิดเหตุ รองนายกฯตอบว่า จะให้ทำไง ก็เขาติดยา ส่วนนายกฯบอกให้ลดธงครึ่งเสา
ปัญหาที่เห็นคือยาเสพติดและปืน แต่รากปัญหาที่ใหญ่กว่าคือ ระบบของตำรวจและกองทัพ ปล่อยให้บุคลากรคลั่งทำร้ายประชาชน #กราดยิงหนองบัวลำภู