ต่อ ธนภพ เดินหน้าทำงาน ไม่สนเป็นโรคแพนิก เชื่อตัวเองรับมือได้

Home » ต่อ ธนภพ เดินหน้าทำงาน ไม่สนเป็นโรคแพนิก เชื่อตัวเองรับมือได้



ต่อ ธนภพ เดินหน้าทำงาน ไม่สนเป็นโรคแพนิก เชื่อตัวเองรับมือได้ ตั้งแต่ลดน้ำหนักมารู้สึกแฮปปี้ การออกกำลังกายก็ทำให้แข็งแรงขึ้น

เจอตัวพระเอกหนุ่ม ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร ในงาน เปิดตัว OPPO Find N2 Flip ที่ โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ แอท เจ้าพระยา ผู้สื่อข่าวเลยขออัพเดตสุภาพของหนุ่มต่อกันหน่อย เพราะเห็นช่วงนี้ทำงานเยอะ

อัพเดตเรื่องสุขภาพ? “แข็งแรงดีนะครับ ตั้งแต่ลดน้ำหนักมาก็รู้สึกแฮปปี้ หมายถึงว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ทำหัตถการ การเพิ่มลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องตลก เราไม่มีเครื่องช่วยในส่วนเกิน ผมก็สู้อย่างเดียว กับการออกแรง (ออกกำลังกายอย่างเดียวเลย?) กลัวเจ็บ อะไรที่มันเจ็บก็คือกลัว เราใช้วิธีลดทั้งหมดนี่แหละ เพื่อมันจะอานิสงส์ไปถึง (หัวเราะ)”

มีเคล็ดลับยังไงบ้าง? “อย่าฟังจากผมเลยครับ วิธีของผมมัน Toxic หมายถึงว่าเราทำงานด้วย เราไม่ได้ลดแบบตั้งใจจะเฮลตี้ เราลดจากเป้า ไม่ได้ลดจากการที่ว่า ฉันจะเป็นบุรุษที่สุขภาพดี แต่ว่าการออกกำลังกายก็ทำให้เราแข็งแรงขึ้นครับ

ง่ายไหมสำหรับเรา? “ผมว่าพอเริ่มทำแล้วมันจับจุดได้ มันอยู่ที่ร่างกายคนด้วย คือคุณจะมาทำตามเรา บางครั้งเดี๋ยวหาว่าไม่เห็นผลอีก (เราตั้งเป้าลดลงเท่าไหร่) ส่วนใหญ่ก็จะบวกไปก่อน เพราะสุดท้ายมันสวิงกลับมาได้ครับ แต่ไม่เล่นแล้วนะ ผมจะไม่เปลี่ยนน้ำหนักแล้ว แต่ถ้ามีบทที่น่าสนใจแล้วต้องเพิ่มน้ำหนัก ก็ค่อยว่ากัน (หัวเราะ) ตอนนี้จาก 75 เหลือ 60 ต้นๆ แล้วครับ แต่น้ำหนักแรกของผม ที่เราเจอกันบ่อยๆ ก็คือ 60 นะ”

ถามถึงอาการแพนิกของเรา?ตอนแรกนึกว่าหายครับ แต่มันก็มีกลับมาอีก แต่นานๆ ครั้ง นั่งแต่งหน้าอยู่ดีๆ ก็เป็น แต่ผมว่ามันชินชาไปแล้ว ถ้าสมมติคุมไม่ได้ก็ลุกออกไปข้างนอก อยู่กับตัวเองครับ จริงๆ หลายๆ ครั้ง ที่ผมอยู่กอง ผมเป็นนะ แต่ผมแค่รู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ต้องพูดให้ตื่นตูม ผมอยู่กับมันมานานแล้ว แล้วไม่ได้อยู่ในขั้นที่ต้องใช้ยาด้วยซ้ำ ก็แค่สติ…โอเคเป็นนะ ก็เดินออกมาไปอยู่กับตัวเองซะ จบ”

เราคุยกับคุณหมอเรื่องวิธีการรับมือไหม? ผมไม่ฟอลโลว์แล้วครับ เพราะผมรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหาชีวิตผม มันไม่ได้แรงเหมือนสมัยครั้งที่เราไม่ได้รู้จักมัน ตอนนี้เรารู้สึกว่าเราก็ฝึกสมาธิไปเรื่อยๆ เราเข้าใจแล้วว่ามันคืออะไร มันมาเดี๋ยวมันก็ไป

อาการมันเหมือนเดิมตลอดเลยไหม? ส่วนใหญ่ของผมจะเริ่มจากใจที่มันเต้นรัว รัวแบบเหมือนจะหลุดออกมา รัวจนตัวสั่น ก็จะรู้ว่าอ๊า…มาแล้ว”

ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตใช่ไหม?ไม่ส่งผล เพราะผมไม่ได้เอามันมาเป็นส่วนประกอบชีวิตด้วยซ้ำ ก็แค่รับรู้ว่าโอเค มีก็คือมี ให้เวลากับมันเดี๋ยวมันก็ไป เพราะผมรู้สึกว่ายิ่งแพนิกมันยิ่งไปกันใหญ่ สุดท้ายแล้วเท่าที่คุยกับรุ่นพี่หลายๆ คนก่อนหน้านี้ ถ้ากลัวมันจะยิ่งหนัก เราไม่ได้พยายามจะไม่กลัว เราก็แค่ทำความรู้จักไปเรื่อยๆ ครับ ว่าคุณมายังไง มาได้ในรูปแบบไหนบ้าง ผมแค่รู้สึกว่าผมพยายามจะพูดสิ่งนี้ให้มันดูไม่แปลก เพราะอาจจะมีหลายๆ คนที่ไม่รู้ว่าเป็นก็ได้ มันไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว มันเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่งก็จริง แต่มันไม่ได้แปลว่าเราโรคจิต เราเป็นมนุษย์ปกติครับ คือรู้จักไว้ แต่ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนครับ (หัวเราะ)”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ