จากกรณีคลิปภาพเหตุการณ์รถตู้ตำรวจของ สภ.พลกรัง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ขับไปจอดที่บริเวณชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี จากนั้นก็มีกลุ่มบุคคลประมาณ 7-8 คน ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย แต่งตัวเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปเดินลงมาจากรถ และแวะพักผ่อนที่ชายหาดชะอำเล่นกีต้าร์ร้องเพลงอย่างสนุกสนาน โดยมีประชาชนพบเห็น และถ่ายคลิปวิดีโอไปโพสต์ลงบนโลกโซเชียล

• ผบช.ภ.3 สั่งสอบแล้ว คลิปตำรวจโคราชขับรถหลวง พาครอบครัวเที่ยวทะเลชะอำ

ล่าสุดวันนี้ (10 กันยายน 2564) พลตำรวจตรี ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจากเมื่อปี 2554 เกิดคดียิงกันตาย 2 ศพ ที่ร้านอาหารลานตะวัน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ผู้ต้องหาคือ นายไสว ขันผักแว่น อดีตนายก อบต.โพธิ์กลาง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ใช้อาวุธปืนยิง นางวนิดา เสตะปุตตะ อดีต ส.จ.เขต อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ภรรยาของนายไสว และนายเจษฎา เสตะปุตตะ บุตรชายของนางวนิดา เสียชีวิตรวม 2  ศพ แล้วนายไสวได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี 

กระทั่งเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564  นายไสวผู้ต้องหารายนี้ได้ติดต่อกับ นายตำรวจคนดังกล่าวทางแอปพลิเคชันไลน์แจ้งว่า ขณะนี้ทำงานอยู่ที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี และกำลังมีปัญหาโดยให้นายตำรวจคนดังกล่าวมารับ และขอให้ใช้รถตู้ตำรวจ โดยภายในรถขอให้มีนายตำรวจคนดังกล่าว และชาวบ้านทั่วไป ให้ดูเหมือนมาท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้ถูกสงสัยในระหว่างเดินทางหากพบเจอด่านตรวจ

ต่อมานายตำรวจนายดังกล่าว ได้แจ้งให้ พ.ต.อ.ทรงวุฒิ ไสยบุญ ผู้กำกับการ สภ.พลกรัง รับทราบ และทำหนังสือขออนุมัติใช้รถยนต์ตู้ เพื่อใช้เดินทางไปจับกุมตัวนายไสว พร้อมกันนี้ได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ต่อมาวันที่ 15 กันยายน 2564 ตำรวจนายดังกล่าว พร้อมพลเรือน ได้ใช้รถยนต์ตู้ของ สภ.พลกรัง อ.เมืองนครราชสีมา หมายเลขทะเบียน ฮษ 8452 กรุงเทพมหานคร เดินทางไปจังหวัดสุราษฏร์ธานี และถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 16 กันยายน 2564

ขณะนั้นได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 8 สามารถจับกุมตัวนายไสว มือปืนได้แล้ว หลังได้รับแจ้ง นายตำรวจคนดังกล่าวจึงได้พาคณะเดินทางกลับจังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 17 กันยายน 2564  ซึ่งระหว่างเดินทางกลับ นายตำรวจคนดังกล่าว พร้อมพลเรือน ได้แวะรับประทานอาหารที่บริเวณชายหาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี จนมีประชาชนถ่ายภาพเอาไว้ได้ จากข้อมูลหลักฐานในเบื้องต้นยืนยันว่า เป็นการใช้รถยนต์ตู้ของ สภ.พลกรัง ไปในงานของทางราชการ โดยมิได้ใช้เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด