ความคืบหน้าจากกรณี ปฏิบัติการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ กวาดล้างบ้านตัวเอง โดยนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมตำรวจและพลเรือนที่เชื่อมโยงกับการแก๊งพนันออนไลน์ รวม 30 จุดใน 6 จังหวัดทั่วประเทศ เบื้องต้นสามารถควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ 11 คน แบ่งเป็นตำรวจ 8 นาย ยศตั้งแต่พล.ต.ต.-พ.ต.อ.และพลเรือน 3 คน ที่พบว่าเป็นเจ้าของบัญชีม้ากลุ่มพนันออนไลน์ที่โอนเงินออกไปยังกลุ่มข้าราชการตำรวจ โดยที่เป็นประเด็นร้อนคือการบุกค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เมื่อช่วงเช้าวานนี้
มีรายงานจากแหล่งข่าวว่า สำหรับบ้านพักที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักอาศัยอยู่ทั้ง 5 หลังย่านวิภาวดี พบว่าชื่อผู้ครอบครองเป็นของ เฮีย ต. และภรรยา ซึ่งเป็นคนทำธุรกิจอยู่ที่ จ.อุดรธานี โดยซื้อบ้านทั้ง 5 หลังนี้ไว้และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์พักอาศัยอยู่ โดยไม่เก็บค่าเช่าและไม่ได้เข้ามาดูแลบ้านทั้งหมดมานานแล้ว
เฮีย ต. และภรรยา เป็นเจ้าของบริษัทรายใหญ่ใน จ.อุดรธานี พบมีสาขาอยู่ในหลายจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วประเทศ และมีความเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา สำหรับชื่อผู้ครอบครองบ้านทั้ง 5 หลัง พบเป็นชื่อของ เฮีย ต. จำนวน 3 หลัง เป็นบ้านพักที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อาศัยอยู่และอ้างว่าซื้อไว้ให้พ่ออยู่อีกหลัง ส่วนอีก 2 หลังมีชื่อของภรรยา เฮีย ต. อีก 2 หลัง ที่ให้เป็นที่พักของนายตำรวจติดตาม อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร
นอกจากนี้ ยังได้ข้อมูลการจ่ายเงินค่าส่วนกลางของหมู่บ้านของบ้านทั้ง 5 หลัง ในช่วงเดือน ก.ค.2566 ถึงเดือน มิ.ย.2567 โดย เฮีย ต. เป็นคนโอนเงินเข้ามาจ่ายให้
ซึ่งบ้านพักหลังที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักอาศัยอยู่จ่ายค่าส่วนกลางเป็นเงินรวม 62,000 บาท ส่วนหลังอื่นหลังละ 26,000 – 27,000 บาท รวมค่าส่วนกลางทั้ง 5 หลัง เป็นเงินกว่า 142,000 บาท ส่วนการขอใช้ไฟฟ้าของบ้านทั้ง 5 หลัง พบเป็นชื่อของ เฮีย ต. เป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าทั้งหมด
หลังจากนี้ตำรวจจะเร่งสอบสวนและจะออกหมายเรียกให้ เฮีย ต. และภรรยา มาให้ข้อมูลถึงการครอบครองบ้านทั้ง 5 หลังในเร็วๆ นี้ ชุดสืบสวนจะตรวจสอบที่มาของเงินนำมาซื้อบ้านทั้ง 5 หลังนี้ด้วย และเหตุใดถึงต้องซื้อแล้วให้บุคคลอื่นมาพักอาศัยอยู่ทั้ง 5 หลัง พร้อมทั้งจะยื่นขอให้สำนักงานป.ป.ช. ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่ามีการรับของเกิน 3,000 บาท จากบุคคลอื่นหรือไม่