สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฟีฟ่า ขอเจรจาด่วนกับ กาตาร์ หลังเกิดดราม่าหลายครั้ง ห้ามแฟนบอลสวมใส่สิ่งที่มีสัญลักษณ์สีรุ้ง แสดงออกถึง LGBTQ+
เป็นที่ทราบกันดีว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 หรือ ฟีฟ่าเวิลด์คัพกาตาร์ 2022 จัดขึ้นโดยมีประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เป็นประเทศมุสลิมทำให้การรักเพศเดียวกันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และมีกฎห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ
แม้ว่าก่อนที่ฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มต้นขึ้น ประเทศกาตาร์เคยชี้แจงว่าการแสดงออกด้วยสีรุ้ง ที่มีความหมายถึงความหลากหลายทางเพศ LGBTQ+ นั้นสามารถทำได้
แต่เมื่อทัวร์นาเมนต์เริ่มขึ้นจริง แฟนบอลกลับทำแบบนั้นไม่ได้ จนเกิดเป็นประเด็นดราม่า ซึ่งมีข่าวออกมาให้เห็นทั้งหมดตอนนี้ 5 เคสด้วยกัน
- กัปตันทีมหลายชาติได้สวมปลอกแขน One Love ที่มีสีรุ้งลงสนาม ซึ่งมีข่าวว่า FIFA จะลงโทษกัปตันทีมที่สวมด้วยการแจกใบเหลืองตอนเริ่มเกม และปรับเงินสมาคมฟุตบอลของชาตินั้นๆ (แคมเปญ One Love เริ่มมาจากทีมเนเธอร์แลนด์ในปี 2010 มีจุดประสงค์เพื่อความสามัคคีและต่อต้านการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบ)
- ลอร่า แม็คอัลลิสเตอร์ อดีตนักฟุตบอลหญิงทีมชาติเวลส์ ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธไม่ให้เข้าสนามในเกมระหว่าง สหรัฐอเมริกา – เวลส์ เพราะสวมหมวกสีรุ้งที่แสดงออกถึงความเป็น LGBTQ+
- แกรนท์ วอห์ล นักข่าวชาวสหรัฐฯ ใส่เสื้อสีรุ้งเข้าไปในสนามแล้วปฏิเสธไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อ ทำให้ถูกเจ้าหน้าที่ยึดมือถือและกักตัวเป็นเวลา 25 นาที
- แฟนสหรัฐฯ บางส่วนอ้างว่าถูกขู่เอาชีวิต เพราะถือธงสีรุ้งระหว่างอยู่ในรถไฟใต้ดินเดินทางไปชมการแข่ง
- นักข่าวชาวเดนมาร์ก ถูกตำรวจกาตาร์สั่งให้ถอดปลอกแขนสีรุ้งขณะทำข่าวหน้าโรงแรมที่นักเตะเดนมาร์กพักอยู่
ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฟีฟ่า ขอเจรจากับ กาตาร์ เป็นการด่วน เพื่อขอให้ยกเลิกการห้ามแฟนบอลแต่งกายสีรุ้ง อย่างไรก็ตามหลังเกิดดราม่าทำให้มีความคิดเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่มองว่าไปประเทศเขา ก็ควรทำตามกฎเขา กับอีกฝ่ายที่มองว่านี่เป็นมหกรรมระดับโลก กาตาร์ควรยอมรับความหลากหลายของคนอื่น