เชียงใหม่ บรรยากาศ วันแม่ ปีนี้ ไม่คึกคัก ราคาดอกมะลิปรับสูงขึ้น 200 เปอร์เซ็นต์ จากกิโลกรัม 400 พุ่งขึ้น 1,000 บาท เกษตรกรอ้าง เจอฝนตกหนัก พบโรคระบาด ทำให้ผลผลิตออกน้อย
11 ส.ค. 65 – ที่ตลาดต้นลำไยตลาดค้าปลีกและส่งดอกไม้สดแหล่งใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ บรรยากาศการซื้อขายดอกมะลิ ก่อนวันแม่ที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้ ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเพราะ ยังเป็นวันทำงาน หลายคนอาจจะวางแผนซื้อตอนค่ำ หรือวันพรุ่งนี้ วันแม่ 12 สิงหาคม
ส่วนของพ่อค้าแม่ขายดอกมะลิ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ปีนี้ดอกมะลิแพงขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าปกติช่วงวันแม่จะมีการปรับราคาขึ้นเกือบเท่าตัวในทุกๆปีแล้ว แต่พบว่าในปีนี้ราคาดอกมะลิปรับสูงขึ้นเกือบ 200 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบ 2 เท่าตัว
นายเสฏวุฒิ ธิมูล เข้าของร้านน้อยมะลิมาลัย บอกว่า ปีนี้ราคาดอกมะลิที่ซื้อมาเป็นกิโลปรับขึ้นจากกิโลกรัมละ 300-400 บาท ขึ้นมาเป็น 1,000-1,200 บาท ปรับขึ้นมาได้ 2-3 วันแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกมะลิมีความต้องการของตลาดสูง
ประกอบกับปีนี้ได้รับแจ้งจากเกษตรกรว่า พื้นที่ปลูกมะลิในภาคกลาง ทั้งจังหวัดนครสวรรค์ และกำแพงเพชร แหล่งปลูกมะลิใหญ่ที่สุดของประเทศ พบว่า ประสบกับปัญหาฝนตกชุก ทำให้ดอกเสียหาย ซึ่งดอกมะลิไม่ชอบน้ำฝนมากในช่วงของการเก็บเกี่ยว ส่งผลให้ผลผลิตปีนี้ออกมาน้อย
ประกอบกับฤดูฝน พาหนอน และโรคมาด้วย ยิ่งทำให้ปริมาณของดอกมาลิ และคุณภาพเก็บได้ไม่ดีเท่าปีที่ผ่านๆมา จึงมีการปรับราคาสูงขึ้นกว่าปีก่อนๆ ด้วย ทำให้ราคาหน้าร้านตอนนี้ ต้องขยับราคาขึ้นมา 2-3 เท่าตัว
โดยพวงมาลัยดอกมะลิแบบเส้น จากราคาเส้นละ 3 บาท ปรับขึ้นมาเป็น 8 บาท มาลัยกร พวงเล็กจากเคยขาย 30 บาทขึ้นมาเป็น 70 บาท และใหญ่สุดจากราคา 100 บาท ปีนี้ต้องขยับมาขาย 200 บาท
ส่วนบรรยากาศการซื้อขายวันนี้ช่วงเช้ายังไม่คึกคัก ยังเป็นวันทำงานอยู่ คาดว่าจะคึกคักในช่วงค่ำหรือช่วงกลางคืน หวังไว้ว่าหากฝนไม่ตกลงมาก็อาจจะพอขายได้
รวมทั้งในวันพรุ่งนี้ เชื่อว่า หลายคนยังรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวไทยไว้ แม้ดอกมะลิจะแพง อาจจะต้องปรับมาซื้อตามกำลังเงินในกระเป่า จากพวงใหญ่ก็ซื้อพวงเล็กลง เพื่อนำไปกราบแม่แสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อท่าน