ดร.โอฬาร มอง รัฐบาลใหม่ไม่ต่างกับยุค 2 ลุง แถมมีนายกฯ ทับซ้อน ลุงยังคอยดูแลเรา

Home » ดร.โอฬาร มอง รัฐบาลใหม่ไม่ต่างกับยุค 2 ลุง แถมมีนายกฯ ทับซ้อน ลุงยังคอยดูแลเรา

ดร.โอฬาร ชี้ รัฐบาลใหม่ไม่ต่างอะไรกับยุค 2 ลุง เสมือนมีนายกฯ ทับซ้อน “เศรษฐา” นอมินี “ประยุทธ์” จับตาหลังจากนี้ ความน่าเกลียดต่างๆ จะปรากกฏขึ้นมาเรื่อยๆ สิ่งที่สัญญาไว้จะไม่ทำ โดยเฉพาะแก้ รธน.เพื่อไทยไม่แตะแน่นอน

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น ถึงประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นว่า จากนี้ต้องจับตาดูคณะรัฐมนตรีที่ชัดเจนอีกที คิดว่ารัฐบาลชุดนี้จะต้องมีการแบ่งโควตารัฐมนตรีกันมากพอสมควร เพราะเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค และยิ่งเป็นรัฐบาลมาจากขั้วอำนาจเดิมก็ยิ่งยุ่งยากมากขึ้น และเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะบริหารประเทศไม่ได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน

เมื่อถามต่อไปว่าการต่อรองที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดปัญหามากน้อยแค่ไหน รศ.ดร.โอฬาร ตอบว่า ภายในเชิงโครงสร้างรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ “มีเราและมีลุง” และลุงยังคอยดูแลเรา หมายความว่ามีหน้าตาคล้ายหรืออาจเรียกได้ว่ารัฐบาลประยุทธ์ 3 เปลี่ยนเพียงแค่นายกรัฐมนตรี จากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายเศรษฐา ทวีสิน กลไกโครงสร้างทางอำนาจยังมีลักษณะแบบเดิม จะต่างกันในส่วนเรื่องของแนวนโยบายในการบริหารที่จะมีความต่างกันบ้าง

ในส่วนครงสร้างก็ถือว่ามีเสถียรภาพในระดับหนึ่ง แต่ในแง่การบริหารอำนาจ โดยเฉพาะการจัดสรรเก้าอี้ใน ครม.คิดว่าน่าจะมีปัญหาใหญ่ เพราะจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา เช่นการ โหวตนายกฯ หรือ พระราชพิธีโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกฯ พลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ ที่มีอิทธิพลในกลไกลต่างๆแสดงท่าทีไม่สนับสนุนนายเศรษฐา ชัดเจนทั้งการไม่โหวตให้และไม่มางานพิธี หลังจากนี้อาจจะมีปัญหาในส่วนโควต้าของ พรรคพลังประชารัฐ

นอกจากนี้ รศ.ดร.โอฬาร ยังกล่าวต่อไปว่าก่อนจะมีการตกลงเรื่องตำแหน่งนายกฯ ดุลอำนาจยังอยู่ที่ขั้วอำนาจเดิม แต่วินาทีแรกที่ตำแหน่งนายกฯเป็นของเพื่อไทยดุลอำนาจได้เปลี่ยนมาอยู่ในมือของเพื่อไทย ตอนนี้เพื่อไทยจะไม่สนใจพลังประชารัฐเลยก็ได้ เพราะมี เสียง สว.ในฝั่งของพล.อ.ประยุทธ์ ที่สนับสนุนอยู่ มีอะไหล่อย่าง สส.จากพรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐจึงไม่จำเป็นสำหรับเพื่อไทยในตอนนี้

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เข้าพบ พล.อ. ประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล รศ.ดร.โอฬาร ตอบว่า ข่าวที่ออกมาถือว่ามีนัยยะทางการเมืองอย่างสำคัญว่า พรรครัฐบาลได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างดี สิ่งที่ประกาศไว้ก่อนการเลือกตั้งว่า มีลุงไม่มีเรา เป็นแค่สินค้าโฆษณาหาเสียงเพื่อหลอกประชาชนให้ได้คะแนนเสียง

ส่วนเมื่อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการตอกย้ำข่าวว่าที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร ทะเลาะกันหรือไม่ก็ขอตอบว่า ส่วนตัวคิดว่าทั้งสองไม่ได้ทะเลาะกัน แต่เป็นความหวาดระแวงกันเอง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ถอยในสถานการณ์การเมืองแบบนี้ เขากลัวว่าจะมีอะไรตามมาทำให้เขาเดือดร้อน จากการที่คนรอบข้าง พล.อ.ประวิตรถ้าได้ไปนั่งในตำแหน่งสำคัญ กล่าวอย่างง่ายๆ คือ กลัวว่าถ้าลงจากหลังเสือ เสือจะกัด จึงต้องพยายามการสร้างอำนาจต่อรอง ซึ่งตอนนี้เขาทำสำเร็จ จะพูดว่าตอนนี้ นายเศรษฐา เป็นเสมือนนอมินี ของ พล.อ.ประยุทธ์ และขั้วอำนาจเดิมก็ไม่ผิดนัก ก็ยังมีคนอื่นที่อยู่เบื้องหลังอีก

รศ.ดร.โอฬาร กล่าวต่อไปอีกว่า หลังจากนี้ไปความน่าเกลียดต่างๆ จะปรากกฏขึ้นมาเรื่อยๆ สิ่งที่สัญญาไว้ก่อนหน้านี้จะไม่เป็นไปตามนั้น อย่างไรก็ตาม เพื่อไทยรู้เงื่อนไขต่างๆ ที่เกิดขึ้นดี การตัดสินใจทางการเมืองในครั้งนี้มีต้นทุนมีราคาที่ต้องจ่ายอย่างมหาศาล เพื่อไทยจึงต้องจองกระทรวงสำคัญๆ ไว้ไม่ปล่อยให้ไปอยู่ในมือของพรรคอื่น เพื่อเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามที่เขาถนัด เพื่อกู้ภาพลักษณ์ที่เสียไปให้คืนกลับมา

แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาในเชิงโครงสร้างเพื่อไทยคงทำอะไรไม่ได้มาก และคงจะไม่มีความคิดที่จะไปแตะด้วย โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงเป็นเรื่องยาก

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ