หนุ่มบุกทุบสถูปเก็บอัฐิพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 อ้างกลับชาติมาเกิด พระองค์ดำเชื่อมจิตสั่งการ
เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุชายคนหนึ่งบุกเข้าไปใช้ค้อนทุบทำลาย “กู่เจ้าหลวงเชียงใหม่” ซึ่งเป็นสถูปเก็บอัฐิของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 ที่ตั้งอยู่ภายในวัดสวนดอก ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยชายคนดังกล่าวอาศัยช่วงค่ำที่พระเณรปฏิบัติภารกิจสงฆ์ แอบนำค้อนและมีดเข้าไปทุบสถูปจนแผ่นจารึกแตกสียหายและพยายามจะเจาะสถูปเข้าไปภายในให้ได้ แต่ขณะก่อเหตุมีเสียงดังจากการทุบเจาะทำให้นายเยี่ยม กาวิละเวส ไวยาวัจกรวัด และพระเณรทราบเรื่องและช่วยกันควบคุมตัวไว้พร้อมกับแจ้งตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เข้ามานำตัวไปดำเนินคดี
ต่อมาสายตรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้เข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุคือนายธนาดล หรือ อาร์ต อายุ 36 ปี เป็นชาว ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน พร้อมของกลางค้อนและมีดอย่างละหนึ่งเล่ม โดยนายธนาดลให้การวกวนคล้ายค้นสติไม่ดี บอกว่าตนเองเป็นพระเจ้าอินทวิชยานนท์กลับชาติมาเกิดและในตอนนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป ตนเองจึงหมดอายุขัยจึงมาทุบเอาอัฐิของตัวเองออกไป ขณะที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ อาจเป็นกลุ่มโจรที่วางแผนมางัดหาทรัพย์สินในสถูป โดยเจ้าหน้าที่คุมตัวไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “ทำให้เสียทรัพย์และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ”
ล่าสุดเช้าวันนี้ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ คุมตัวนายธนาดลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ นายเยี่ยม กาวิละเวส ไวยาวัจกรวัด เล่าว่า เวลาประมาณเกือบ 1 ทุ่ม ตนเองได้รับแจ้งจากพระในวัดว่ามีคนบุกรุกเข้ามาทำลายกู่เจ้าหลวง จึงรีบออกมาดูเหตุการณ์พบชายคนหนึ่งกำลังถือฆ้อนทุบที่บริเวณป้ายของกู่เจ้าหลวงพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เมื่อถามไปว่าจะทำอะไร ชายคนดังกล่าวตอบว่า “พระองค์ดำสั่งให้ตนมาเอากล่อง ที่บรรจุอยู่ในกู่นี้” เมื่อเห็นดังนั้นก็เกรงว่าจะถูกทำร้าย เพราะชายคนดังกล่าวถือฆ้อนไว้ในมือ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับขอให้ทางพระสงฆ์และสามเณร มาคุยถ่วงเวลาและดูสถานการณ์ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง จึงได้ช่วยกันควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไว้ได้ในที่สุด
ด้านนายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบแผ่นหินอ่อนจารึกพระราชประวัติของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ ได้รับความเสียหายไปประมาณครึ่งแผ่น ซึ่งแผ่นหินอ่อนนี้มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์เรื่องจากเป็นแผ่นหินอ่อนที่ได้รับพระทานจากรัชกาลที่ 5 และเป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียน หลังจากนี้สำนักศิลปากรที่ 7 จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำลายโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว ตาม พ.ร.บ. โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เนื่องจากแผ่นหินอ่อนพระราชทานเป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนการบูรณะซ่อมแซม หลังจากนี้สำนักศิลปากรที่ 7 จะประสานกับมูลนิธิที่ดูแลประสานงานเกี่ยวกับเจ้านายฝ่ายเหนือ เพื่อหารือในการถอดแผ่นหินอ่อนที่เสียหายไปจัดเก็บรักษาไว้ในสถานที่ที่เหมาะสม รวมทั้งถอดจำลองแบบออกมาเพื่อสร้างของใหม่ทดแทน ทั้งนี้ พระเจ้าอินทวิชยานนท์ พระเจ้าอินทวิชยานนท์เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 และเป็นเจ้าผู้ครองนครที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเลื่อนพระเกียรติยศขึ้นเป็น “พระเจ้าประเทศราช” องค์ที่ 6 ในสมัยรัชกาลที่ 5 และทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นพระเจ้่าประเทศราชองค์สุดท้ายที่มีอำนาจอย่างแท้จริง เพราะในสมัยรัชกาลที่ 5 สยามได้ลิดรอนอำนาจของเจ้าหัวเมืองลง