เรียกว่าเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง เมื่อ 2 นักแฉรุ่นใหญ่ในวงการอย่าง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้ที่คร่ำหวอดในเรื่องของการแฉวงการตำรวจ การเมือง และการคอรัปชั่น ต้องมาโดนนักแฉอย่าง ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาเปิดโปงถึงประเด็น “แฉไปแถไป” เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 66 โดยประเด็นที่ ทนายตั้ม หยิบออกมาพูด นั้นคือเรื่องของ ถุงเงินปริศนา โดยกล่าวว่า “คนที่คุณเห็นอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด หมดศรัทธา ไถสีเทามา 50 ล้าน บริจาคเอาหน้าทีละ 3 ล้าน สร้างภาพกลับตัวกลับใจ ผมไม่อยากสวนกระแสนะครับ ผมก็เป็นคนนึงที่ชื่นชมมาตลอด แต่พอรู้ความจริงแล้ว มันหมดรักเลยจริงๆ ผมไม่อยากให้มีอาชีพแบบนี้ สร้างประเด็นข่าว ตีๆ แล้วไถ ใครยอมจ่ายก็ไม่พูดถึง เราจะยกย่องคนแบบนี้เป็นฮีโร่จริงหรือครับ”

หลังจากโพสต์นั้น ชาวโซเชียลได้ให้ความสนใจทันที ว่าทนายตั้มนั้นกำลังจะออกมาแฉใครกันแน่ แต่ทนายตั้มเองก็ไม่ปล่อยให้ชาวเน็ต สงสัยนานรีบเข้ามาคอมเมนต์เพิ่มเติมโดยระบุข้อความว่า ตอนนี้พี่ชูวิทย์ก็รับแล้วนะครับ ว่ารับเงินสารวัตรซัว ที่แกรับเพราะแกพอจะเดาได้ว่าผมมีอะไรมากกว่านี้ แต่ยอดนี้จะเอาไปบริจาคจริงหรือเปล่า พรุ่งนี้รู้กัน

• ชูวิทย์ ตั้งโต๊ะแถลง หลังทนายตั้มแฉ เงินในถุงกระดาษ ลั่น เป็นข้อมูลจากคนเนรคุณ

• ทนายตั้ม ไม่แผ่ว! เปิดภาพ ชูวิทย์ รับเงินครั้งแรก จี้ถ้าพี่ไม่กล้าพูด ผมจะเปิดแทน

• ทนายตั้มแฉชูวิทย์ วิเคราะห์ เงินในถุงกระดาษ ลั่น ตีไป กินไป เหมือนโรบินฮู้ด

ต่อมา ทางด้าน ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุถึงประเด็นที่ ทนายตั้ม ออกมาแฉ โดยชี้แจงว่าเงินที่รับมาเป็นเงินของ สารวัตรซัว จริง แต่มอบให้เพื่อให้ตนนั้นหยุดโจมตี ตนเองก็ได้รับไว้แต่นำไปบริจาคหมดแล้ว

คราวนี้ ทนายตั้ม ไม่รอช้า วานนี้ 23 มี.ค. 66 ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ทนายตั้ม ก็ตั้งโต๊ะแถลงต่อสื่อทันทีโดนยกหลักฐานเรื่องถุงเงินปริศนาที่กล่าวไปในข้างต้น และแถลงว่า “เงินในถุงนั้นคาดมีเงินมากกว่า 3 ล้าน ตามที่ชูวิทย์กล่าวอ้าง เนื่องจากขนาดของปึกธนบัตร หากนำมาคำนวนแล้วจะพบว่ามีจำนวนเงินเกินกว่าที่กล่าวอ้าง โดยเงินดังกล่าวสืบเนื่องมาจากวันหนึ่งที่มีคนสนิทของสารวัตรซัว พร้อมด้วยตำรวจรายหนึ่งเข้าไปหาชูวิทย์ที่โรงแรม ซึ่งหากย้อนไปจะพบว่าตอนที่ชูวิทย์นำเงินไปมอบกลับบอกว่าเป็นเงินสะอาดแต่มาวันนี้กลับบอกเป็นเงินสกปรก”

หลังจากนั้นเวลา 13.00 น.ในวันเดียวกัน ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ได้ออกมาแถลงการณ์โต้กลับ ทนายตั้ม โดยกล่าวว่า ข้อมูลที่ตั้มได้มานั้นเป็นข้อมูลจากคนเนรคุณที่เคยโกงตนเองตอนติดคุก ยืนยัน เงินในถุงมีแค่ 6 ล้าน ไม่ได้เป็นอย่างที่ตั้มพูดยอมรับ แทนไท เคยมาหาตนเองจริง เงินจำนวนนี้เป็นของ “นายซัว” มายัดเยียดทื้งไว้ไม่ยอมเอากลับ จึงนำไปบริจาค ส่วนเงิน 50 ล้านที่เป็นดิจตอลนั้นไม่มีตามกล่าวอ้าง เรื่องที่ตนไม่ออกมาแฉ “แทนไท” ต่อนั้นเพราะตนเองยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ ซึ่งนายชูวิทย์พร้อมให้สังคมตัดสินว่าตนเองเป็นอย่างไร

ชูวิทย์ เผย โรงพยาบาลจะคืนเงินบริจาค

ต่อมาเมื่อช่วงค่ำของวันเดียวกัน เวลา 21.00 น. ชูวิทย์ นั้นก็ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โดยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนเงินในถุงและการบริจาคให้โรงพยาบาล โดยระบุข้อความว่า

เงินสีเทา หากทนายตั้มบอกว่าผมได้มา 10 ล้าน และนำไปบริจาค 6 ล้าน เก็บไว้ 4 ล้าน .ถ้าผมคิดจะเก็บไว้จริง ผมควรเก็บไว้มากกว่าที่บริจาคไหม? เช่น เก็บไว้ 6 หรือ 7 หรือ 8 ล้าน และนำไปบริจาคเพียงส่วนน้อยย่อมทำได้ หรือไม่ก็ไม่ต้องบริจาคเลย เก็บไว้ทั้ง 10 ล้าน แล้วหยุดพูด เงียบๆ ไป เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรู้อยู่ดีในวันนั้นที่นำเงินมา หากโรงพยาบาลไม่สบายใจ คืนเงินมา ผมก็ต้องนำเงินไปให้ตำรวจ ก็ไม่ทราบว่าตำรวจจะทำอย่างไรกับเงินนี้ต่อไป แต่ด้วยเจตนาดีในการนำเงินไปให้โรงพยาบาล เพื่อได้ช่วยเหลือคนเจ็บป่วย หรือคนตาย คนนำเงินมาให้ก็เป็นนายตำรวจผู้ใหญ่ที่เกษียณแล้ว และผมรู้จักมานาน จิตใต้สำนึกผมแยกแยะได้ว่า อะไรคือเงินของผม และอะไรที่ไม่ใช่ สังคมพิจารณาได้ว่าผมเป็นคนอย่างไร? การกระทำของผมย่อมมีคนเสียประโยชน์ที่พยายามเล่นงานผมทุกวิถีทาง แต่เมื่อผมตัดสินใจแล้ว เกมนี้เดิมพันด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ครับ

ศิริราช กับ ธรรมศาสตร์ ประสานมาแล้วนะครับ จะคืนเงินบริจาคผมก็จะเอาเงินไปให้ตำรวจรู้สึกสบายใจขึ้นมั้ยครับ

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ

Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY