ชิปปี้ ศิรินทร์ เผยโฉมโต้เลิกแฟนปล่อยตัวหมดสภาพ รัก2ปี หนุ่มนอกวงการแฮปปี้ดี

Home » ชิปปี้ ศิรินทร์ เผยโฉมโต้เลิกแฟนปล่อยตัวหมดสภาพ รัก2ปี หนุ่มนอกวงการแฮปปี้ดี


ชิปปี้ ศิรินทร์ เผยโฉมโต้เลิกแฟนปล่อยตัวหมดสภาพ รัก2ปี หนุ่มนอกวงการแฮปปี้ดี

ชิปปี้ ศิรินทร์ เผยโฉมโต้เลิกแฟนปล่อยตัวหมดสภาพ รัก2ปี หนุ่มนอกวงการแฮปปี้ดี

หลังจากที่มีข่าวว่า นางเอกเสียงแบ๊ว อักษรย่อ ช. เลิกแฟนแล้วปล่อยตัวหมดสภาพ ถูกคนวิจารณ์หนักว่าหุ่นเหมือนคนเพิ่งคลอดลูก จนทำให้นอยด์ คนรอบตัวเป็นห่วง หวั่นโรคซึมเศร้ากำเริบ งานนี้ชาวเน็ตพุ่งเป้าไปที่นางเอกสาวสุดแซ่บ “ชิปปี้ ศิรินทร์ ปรีดียานนท์”

ล่าสุด ชิปปี้ ได้ออกมาเผยโฉม และมาเผยความรัก 2 ปีกับแฟนหนุ่มนอกวงการ ที่บอกเลยว่าฝ่ายชายตามใจหนักมาก พร้อมไขข้อสงสัยทำไมถึงไม่ยอมเปิดหน้าสักที อีกทั้งย้อนเล่าอาการโรคซึมเศร้าอย่างหนัก ถึงขั้นคิดอยากจะออกจากวงการบันเทิง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ชิปปี้ตอนนี้แฮปปี้ไหม?
ชิปปี้ : แฮปปี้ค่ะ

จริงไหมชิปปี้เคยป่วยโรคซึมเศร้า?
ชิปปี้ : ใช่ค่ะ เคยเป็นอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนแรกเราไม่รู้หรอก เพราะเราเป็นคนที่ค่อนข้างอะเลิทมาก แฮปปี้ แล้วมีช่วงที่หนูเลิกกับแฟนเก่า หนูร้องไห้หนักจนมันรู้สึกเหนื่อยที่ต้องนั่งร้องไห้ทุกวัน จนเรารู้สึกว่าไม่ไหว จนเพื่อนพาเราไปหาหมอแล้วคุณหมอก็วินิจฉัยว่าเป็นซึมเศร้า

มันมีอะไรที่แปลกกว่าคนอกหัก?
ชิปปี้ : มันไม่ใช่ร้องไห้ 15 นาที เราร้องไห้แบบ 3-4 ชั่วโมง แล้วเหนื่อย ร้องแบบหายใจไม่ทัน ร้องตอนไม่มีใครอยู่เหนื่อยแล้วก็หลับ หนูเป็นก่อนโควิดหนึ่งปี 2018

ร้องไห้แล้วในหัวเราได้คิดอะไรไหม หรือว่าเรานั่งอยู่พิไม่มีใครอยู่แล้วน้ำตาไหลออกมาเอง?
ชิปปี้ : ใช่มันเป็นประมาณนั้น ในใจเรารู้อยู่แล้วว่าการเลิกกับแฟนมันเป็นยังไง แต่ว่าการที่มันร้องไห้โดยที่ใจเราโอเคกับการเลิกรา แล้วร้องมากขนาดนั้น เรารู้สึกว่าตัวเราไม่ปกติ แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร

แล้วทำไมต้องร้องตอนที่ไม่มีใครอยู่?
ชิปปี้ : ชิปเป็นคนไม่ชอบใครคนอื่นมองว่าชิปอ่อนแอ ชิปจะรู้สึกอายเวลาชิปรู้สึกว่าชิปอ่อนแอ แต่พอทุกคนไม่อยู่ก็เป็นตัวเองได้เต็มที่

พอร้องไห้เสร็จแล้วโมเมนต์ไหนที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้แล้ว เราต้องไปหาหมอ?
ชิปปี้ : เราไม่ได้คิดว่าเราไปหาหมอ เราคิดว่าเรารักเขามากมั้ง เราเลยเสียใจ แต่ว่าพอเราร้องจนเรารู้สึกเหนื่อย ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ ทำอะไรก็เหนื่อย จนเรารู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว แต่ไม่มีความคิดอยากจะฆ่าตัวตายนะ แต่เหมือนไม่ตื่นมาก็ได้ เพราะว่าตื่นมามันก็เหนื่อย

ณ ตอนนี้โอเคแล้วใช่ไหม?
ชิปปี้ : โอเคมากค่ะ

สมัยก่อนจริงไหมมีปัญหาอะไร ปรึกษาแฟนตลอด?
ชิปปี้ : ใช่ ทุกเรื่อง

แล้วพอวันนี้เขาไม่อยู่แล้ว เป็นยังไง?
ชิปปี้ : มันเหมือนเซฟโซนของเราหายไป คือเราเป็นคนที่ไม่ดี เราไม่จำเป็นต้องบอกให้เพื่อนรู้ ให้เขามาแบกรับว่าเราคิดอย่างนี้ๆ เราคิดมากเรื่องนี้ ฉะนั้นคนที่รู้ก็จะมีแค่แฟนเรา

แล้วตอนที่เราร้องไห้เยอะๆ เราปรึกษาใคร?
ชิปปี้ : ก็มีคุยกับเพื่อน แต่ไม่เคยร้องไห้ให้เพื่อนเห็น

แต่เพื่อนคนพาไปหาหมอ?
ชิปปี้ : ใช่ เพื่อนคงรู้แหละว่าชิปไม่แสดงความอ่อนแอต่อหน้าคนอื่น

คุณหมอเห็นอะไรในตัวเราถึงวินิจฉัยว่าเป็นซึมเศร้า?
ชิปปี้ : คุณหมอถามว่าเป็นยังไงบ้าง ร้องไห้ไปเลย 2 ชั่วโมง มันเหมือนแค่สะกิดนิดนึงก็ออกเลย คุณหมอก็ถามเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วก็วินิจฉัยว่าเป็นซึมเศร้า แต่ไม่ถึงขั้นฆ่าตัวตาย

ตอนนั้นแยกให้ออกนะระหว่างซึมเศร้ากับเลิกกับแฟน?
ชิปปี้ : คือใจเรา เราเป็นคนเลือกเอง เพราะฉะนั้นเรารู้อยู่แล้วว่าความต้องการคือการอยู่คนเดียว แต่เราก็เข้าใจอยู่แล้วว่าการเลิกกับแฟนต้องเสียใจ แต่สิ่งที่เราร้องไห้มันไม่มีเหตุผล มันเป็นแต่เศร้า

แต่ไม่ได้เศร้าเพราะเลิกกับแฟน?
ชิปปี้ : ใช่ค่ะ แต่มันอยู่ในช่วงที่เราเลิกกับแฟน คือมันเศร้าแบบไม่มีสติ คนเราทุกอย่างมันต้องมีสติ แต่เรามีสติ แต่เราไม่รู้ว่าทำไมเราร้องไห้ขนาดนั้น

พอคุณหมอให้ยามากิน เราก็มีความคิดอะไรหลายๆ อย่าง ไม่อยากตื่น ไม่อยากทำงานแล้ว ไม่อยากทำงานในวงการบันเทิงแล้วใช่ไหม?
ชิปปี้ : ใช่ค่ะ จริงๆ มันมีหลายเคส เพราะว่าช่วงที่ชิปเริ่มกินยา เวลาไปถ่ายละคร พอเราเริ่มปรับเคมีในสมอง เวลาเราเล่นละครเราต้องนึกภาพว่าเราเศร้า มันไม่สามารถร้องไห้ได้ เพราะเหมือนตัวยามันกดไม่ให้เราเศร้า แต่ก็ต้องทำให้ได้ พอเราร้องไห้ได้ทีนี้มันหยุดไม่อยู่ เหมือนเราไปขุดความเศร้าขึ้นมาอีก พอคัทแล้วเรารู้สึกว่าเรายังดิ่งอยู่ เราพยายามหยุดน้ำตา แต่ข้างในมันยังเศร้า หดหู่ จนเรารู้สึกว่าอยู่บ้านก็เหนื่อย ออกไปทำงานก็เหนื่อย จนเราคิดว่าหรือว่าเราจะเลิกเล่นละครดี เพราะมันเหนื่อยจริงๆ กับการที่เราต้องร้องไห้

รักษาอยู่นานไหม?
ชิปปี้ : เกือบๆ 2 ปี

ตอนนั้นได้ทำงานไหม หรือตัดสินใจรักษาตัวเองก่อน?
ชิปปี้ : มีทำงาน ถ่ายละคร มีรายการบ้าง ซึ่งช่วงนั้นพอชิปกิน ชิปรู้สึกมีความสุข ชิปก็มีการหยุดยา เพราะชิปรู้สึกว่าชิปโอเคแล้ว เราไม่ต้องเพิ่งยาแล้ว เราหยุดเองโดยไม่ปรึกษาหมอ สุดท้ายมันสวิง คือซึมเศร้าหนักกว่าเดิม เรารู้สึกว่าหนักขึ้น เพราะเราเข้าใจว่าเวลากินยาก็เหมือนเป็นหวัด หายก็หยุด ไม่มีใครมาบอกชิปว่าห้ามหยุดยาเอง เราคิดว่าเราโอเคแล้ว เราเลยไม่ได้ไปหาหมอ

เรากินยงนานขนาดไหนถึงหยุด?
ชิปปี้ : น่าจะประมาณ 2-3 เดือน แล้วกลับมาถ่ายละคร ก็ร้องไห้หนัก แล้วรู้สึกว่าครั้งนี้มันหนักกว่าเดิม มันรู้สึกว่าดิ่งกว่าเดิม

ก็เลยกลับไปหาหมอ?
ชิปปี้ : ใช่ค่ะ คุณหมอก็เปลี่ยนยาให้ แล้วบอกว่าห้ามหยุดยาเองอีก

จริงไหมเรื่องนี้ พ่อ แม่ไม่รู้เลย?
ชิปปี้ : ตอนแรกไม่รู้ หนูจะอยู่บ้านกับแม่บ้าน แล้วที่คุณพ่อ คุณแม่รู้ เพราะคุณแม่โทรหาหนูแบ้วหนูไม่รับสาย เขาก็โทรหาแม่บ้านหนูว่าน้องทำอะไรอยู่ คือแม่บ้านก็เหมือนพี่เลี้ยงด้วย เขาก็ไปโรงพยาบาลกับหนู แล้วตอนที่ปรึกษาคุณหมออยู่ คุณแม่ก็โทรมา แล้วเราก็ไม่ได้รับ ใจเราตุ๊บตับแล้วว่าเขาจะโทรหาแม่บ้านไหม แม่บ้านจะบอกไหม แล้วเราก็ออกมาจากห้องคุณหมอก็ถามว่าคุณแม่ได้โทรมาไหม เราก็ถามว่าได้บอกไหมว่าทำอะไร ก็บอกว่าอยู่โรงพยาบาลเป็นซึมเศร้า แล้วชิปก็บอกว่าบอกทำไม

ทำไมตอนนั้นชิปถึงตัดสินใจว่าไม่บอกคุณพ่อ คุณแม่?
ชิปปี้ : เพราะอย่างที่บอกว่าชิปไม่อยากให้ใครรู้ว่าชิปอ่อนแอ

แล้วคุณพ่อ คุณแม่ว่าไงหลังจากรู้ว่าชิปป่วย?
ชิปปี้ : คุณพ่อ คุณแม่ตอนนี้เขาอยู่เชียงใหม่ พอเขารู้เขาก็บินมาหา แล้วเขาก็บอกว่าทำไมถึงไม่บอกฉัน เป็นห่วงนะ มีอะไรก็คุยกับมามี๊ แด๊ดดี๊ได้ ชิปก็เศร้า รู้สึกว่าทุกคนอยู่ให้หนู ทั้งๆ ที่หนูไม่อยากไปให้คนอื่นรู้สึกไม่สบายใจเลย แต่พอตอนนี้เขารู้แล้ว เราก็เลยรู้ว่าครอบครัวหรือเพื่อนมีส่วนเยอะมากที่ทำให้หนูรู้สึกไม่ได้อยู่คนเดียว หนูสามารถหายได้

ช่วงที่เป็นน้ำหนักขึ้น 10 โล?
ชิปปี้ : ใช่ คือตอนแรกน้ำหนักลงก่อนประมาณ 4 กิโล แล้วพอกินยา อยู่ดีๆ 3-4 เดือน น้ำหนักหนูขึ้น 6 โล 8 โล 10 โล ในระยะเวลาที่เร็วมาก แล้วหนูก็ถามคุณหมอว่าตอนนี้บวมน้ำมาก

ตอนนั้นยิ่งเครียดเลยไหม?
ชิปปี้ : ไม่เครียดเลย เพราะกินยาทุกวัน เพราะฉะนั้นอะไรก็ไม่สามารถมากระทบได้ แล้วพอเราไม่ได้เจอคนเยอะ เพราะตอนนั้นโควิด พอไม่ต้องเจอคนเยอะเราก็ไม่ต้องมานั่งยิ้มให้ทุกคนว่าเราโอเค

แล้วกลับมาสวยแบบนี้นานไหม?
ชิปปี้ : ใช้เวลานะคะ แต่ชิปไม่ได้มายว่าชิปจะอ้วนหรืออะไร ชิปรู้สึกว่าอ้วนก็ได้ถ้ามีความสุข ถ้าหายจากการเป็นซึมเศร้าชิปโอเค

ตอนนี้ชิปหายแล้ว?
ชิปปี้ : หายแล้ว

ใช้เวลารักษานานขนาดไหน?
ชิปปี้ : ประมาณเกือบ 2 ปี ต้องพูดตรงๆ ว่าครั้งสุดท้ายชิปก็ไม่ได้ไปหาหมอ เพราะตอนนั้นเป็นโควิดเลิกยาเองอีก แต่ว่าเป็นช่วงที่เรากิน 2 วันที 3 วันที ยังเหลือยาด้วยนะ แต่เรารู้สึกว่าเราโอเคมากพอแล้ว

ความรักครั้งใหม่ กับคนนี้กี่ปีแล้ว?
ชิปปี้ : ปีกว่าๆ ค่ะ แฮปปี้มากค่ะ

คนนี้เข้ามาได้ยังไง?
ชิปปี้ : ตอนแรกเราพยายามเปิดใจให้คนอื่นๆ แต่เรารู้สึกว่าเราก็ไม่ชอบใครสักคนเลย แล้วเราก็คิดว่าอันนี้เป็นช่วงเวลาที่เราสามารถอยู่คนเดียว เรียนรู้ตัวเอง แล้วอยู่คนเดียวมันก็แฮปปี้ ไม่ต้องมานั่งคิดถึงใคร

แล้วอะไรทำให้เขาเข้ามาในชีวิตเรา?
ชิปปี้ : เข้ามาในแบบเพื่อนก่อน คือเป็นเพื่อนของเพื่อน แต่หนูรู้ว่าเขาชอบหนู แต่เขาไม่ได้จีบแบบนั้น เพราะชิปบอกเลยว่าไม่ได้ชอบยูนะ ชิปเป็นคนตรงมาก ถ้าเกิดเขาไม่รู้จักชิป แล้วเขามาชอบชิปได้ยังไง เขาไม่รู้ว่านิสัยชิปเป็นยังไง

ตัวอักษรย่อเขาคืออะไร?
ชิปปี้ : pk ค่ะ

เขาจีบยังไง?
ชิปปี้ : ถ้าเกิดเขาชอบชิป รุกชิป ชิปไม่ขอบหรอกนะ เขาก็เหมือนเป็นเพื่อน เราก็โอเค เป็นเพื่อนกัน เขาแทบจะไม่จีบเหมือนเพื่อนคุยกันธรรมดา

แล้วสุดท้ายเขาชนะใจเราได้ยังไง?
ชิปปี้ : ไม่ใช่ว่าชิปไม่เปิดใจแบบนั้นเพราะชิปพยายามเปิดใจกับคนอื่นมาแล้ว แล้วชิปรู้สึกว่าชิปไม่ชอบ แล้วชิปก็รู้สึกว่าคนนี้ชิปก็คงไม่ชอบหรอกก็เป็นเพื่อนไป แต่พอเหมือนอยู่ด้วยกันแล้วมันโอเค ไม่ได้มีความรู้สึกเขาชอบเรา เราชอบเขา เราเขินเขา มันไม่มีเลย มันมีแต่ทำอะไรทำ เป็นตัวเองมากๆ

นานไหมกว่าความรู้สึกนี้จะเปลี่ยน?
ชิปปี้ : จริงๆ ก็ไม่นานนะ 2-3 เดือน ก็รู้แล้ว ถามว่าช่วงนั้นอะไรทำให้เราเปลี่ยนไป น่าจะเป็นความรู้สึก

หรือเป็นเพราะเขาหายไป?
ชิปปี้ : เขาไม่ได้หายไป แต่ด้วยความที่มันเป็นแบบเพื่อน เราจะไม่ได้คุยด้วยกันตลอด เรารู้สึกว่าอยากคุย อยู่กับเขาแล้วสบายตัวแบบบอกไม่ถูก ไม่ต้องเฟคว่าต้องแต่งหน้าทำผม

เขามาขอเราเป็นแฟนหลายครั้ง?
ชิปปี้ : ค่ะ แต่หนูไม่ค่อยจำดีเทลอะไร เอาจริงๆ ตอนแรกชิปถามเขาว่าเมื่อไหร่จะขอหนูเป็นแฟน

แล้วทำไมตอนเขาถามเราไม่เป็น?
ชิปปี้ : ชิปแค่ถามเขาว่าเมื่อไหร่จะขอ แต่พอเขาขอแล้วรู้สึกแบบ คืออันนี้อาจจะเป็นแค่ชิปที่เป็นคนดื้อ เอาแต่ใจ

ตัวเองเป็นคนถามว่าเมื่อไหร่จะขอเป็นแฟน แต่พอขอปุ๊บเราบอกว่า?
ชิปปี้ : ไม่ ขอใหม่นะ ทำไมแค่ขอเป็นแฟนมำไมขอปากเปล่า ทำไมไม่ให้ไอรู้สึกสเปเชียลนิดนึง ครั้งที่2 ก็เหมือนกันแต่อันนี้หนูต้องบอกก่อนว่าหนูเทสเขาค่อนข้างเยอะ ชิปรู้ว่าชิปเป็นคนที่อาจจะอยู่ด้วยยากนิดนึง

อธิบายคำว่าเทสหน่อย?
ชิปปี้ : เหมือนเราเยอะใส่ก่อนเลยในช่วงที่เขาเข้าหาเราหรือคุยกับเรา ให้เขารู้ว่าคบกับเรามันไม่ได้ง่ายนะ แต่ตอนนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว ตอนนี้เราก็ไนน์กับเขามาก หนูก็ย้อนถามเขานะว่าตอนนั้นคิดยังไง เขาก็บอกว่าเยอะกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ครั้งที่สองเราก็ตอบว่าไม่ จนพี่สาวชิปเคยเจอ เขาบอกว่าชิปถ้ายูทำแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็ไม่เอายูหรอกอย่าเล่นตัวเยอะ คนดีๆ ก็ยอมๆ เขาหน่อย

สุดท้ายยอมเป็นแฟน เพราะเขาหรือพี่สาว?
ชิปปี้ : จริงๆ ก่อนที่จะเป็นแฟน ชิปให้ทุกคนเจอที่บ้านหมดเลย ให้รู้ว่าคนนี้เป็นยังไง คนนี้เป็นยังไง เพราะไม่อยากเอาเป็นแฟน แล้วไปเจอที่บ้านไม่โอเค แต่ที่บ้านโอเคมาก

แล้วครั้งที่สาม?
ชิปปี้ : พี่สาวหนูไปฟ้องแม่หนูว่าชิปเล่นตัวเยอะมาก แต่ครั้งที่สามเขาเตรียมดอกไม้ เตรียมขนมจุกจิกมาให้ แต่จริงๆหนูอยากเป็นแฟนกับเขาตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว แต่หนูก็เล่นตัวไปก่อน ตอนที่เขาขอเป็นแฟน เหมือนเขาไม่ได้พูด แต่เขียนไว้ในการ์ด เราก็ตอบว่าโอเค

คนนี้เขาน่ารักยังไง?
ชิปปี้ : เรารู้ว่าเขาคิดยังไงแต่หนูชอบที่หนูได้แกล้งเขา เพราะเราเริ่มต้นมาในแบบเพื่อน

ณ วันนี้เรายังเข้าใจยากเหมือนเดิมไหม?
ชิปปี้ : พยายามมีเหตุผลมากขึ้น เพราะเขาค่อนข้างที่จะมีเหตุผล

จริงๆ ชิปไม่อยากได้ผู้ชายที่นิสัยเหมือนพ่อ แต่คนนี้โคลนนิ่งพ่อมาเลย?
ชิปปี้ : จริง คือหลายๆ อย่างตอนเด็กๆ เราคุยกับคุณแม่ว่าทำไมแด๊ดดี๊เป็นแบบนี้ ถ้าหนูมีแฟนเหมือนแด๊ดดี๊หนูไม่คบหนูเลิกเลย คือมายเซ็ตเขา สิ่งที่เขาชอบคล้ายคุณพ่อมาก ไลฟ์สไตล์เหมือนคุณพ่อ ตอนแรกเราก็รู้สึกนะว่าคล้ายแด๊ดดี๊มาก ชอบกิน ชอบดูอะไรคล้ายๆ กัน หนูก็บอกกับหมามี๊ว่าหนูไม่อยากคบกับคนที่เหมือนแด๊ดดี๊ แต่เนี่ยพี่เขาเหมือนแด๊ดดี๊มากเลย

ทีมงานบอกว่าชิปปี้มีความสามารถในการง้อแฟน?
ชิปปี้ : จริงๆ เราไม่ค่อยทะเลาะกัน

บอกกับผู้ชายคนนี้หน่อย รักเขาขนาดไหน?
ชิปปี้ : ไม่บอกหรอก เดี๋ยวไปบอกกันเอง

ทำไมยังไม่เปิดตัวแฟน?
ชิปปี้ : เขาไม่ได้เป็นคนในวงการ เป็นนักธุรกิจ แล้วเขาไม่ได้อยากเป็นซัมวัน ไอจรเขาแทบจะไม่เล่นด้วยซ้ำ เขาโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา ฉะนั้นเขาไม่สนใจอยู่แล้วกับการที่ไม่มีรูปในโซเชียลของชิป เพราะว่าจริงๆ ในโทรศัพท์ชิปมีแต่รูปเขา เขาไม่งอน

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ