ชายสิวเต็มหน้า หาหมออึ้งได้กลิ่นฉี่ทางลมหายใจ ช็อกเป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย

Home » ชายสิวเต็มหน้า หาหมออึ้งได้กลิ่นฉี่ทางลมหายใจ ช็อกเป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย


ชายสิวเต็มหน้า หาหมออึ้งได้กลิ่นฉี่ทางลมหายใจ ช็อกเป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย

ชายสิวเต็มหน้า หาหมออึ้งได้กลิ่นปัสสาวะทางลมหายใจและผิวหนัง ช็อกเป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย รีบฟอกไตด่วน

ในปัจจุบัน ร่างกายคนเราสามารถได้รับสารพิษทั่วไปทุกหนทุกแห่งตั้งแต่สิ่งแวดล้อมไปจนถึงอาหาร ซึ่งหากร่างกายไม่สามารถเผาผลาญอาหารที่รับประทานหรือกำจัดสารอื่น ๆ ออกไปได้อาจส่งผลให้ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ระบบไหลเวียนโลหิต และนำไปสู่ภาวะสมองเสื่อมและไตทำงานหนักจนอาจต้องฟอกไต

หง หย่งเซียง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักไตวิทยากล่าวใน ” Health 2.0 ” ถึงกรณีของการขับสารพิษในร่างกายออกไม่หมดจนมีสภาพผิวหนังผิดปกติของผู้ป่วยไต้หวันรายหนึ่งที่เข้ารับการรักษาด้วยอาการสิวเม็ดเล็ก ๆ มากมายบนใบหน้า

ภาพจาก Health 2.0

ผู้ป่วยอธิบายอาการว่า ตนรู้สึกเหนื่อย, มีสิว, เกิดผื่นแดงขึ้น และคันบริเวณผิวหนัง ซึ่งสงสัยว่าเกิดจากการรับประทานอาหารบางอย่าง ทว่าเมื่อเข้าพบแพทย์ได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เหตุมีกลิ่นปัสสาวะเล็ดลอดออกมาจากผิวหนังและลมหายใจ เมื่อแพทย์ทำตรวจสอบอย่างละเอียด พบค่ายูรีเมียค่อนข้างสูงส่งผลให้ชายคนดังกล่าวได้รับการฟอกไตทันที ซึ่งอาการต่าง ๆ และสิวทั้งหมดหายไปภายในสองสามสัปดาห์ต่อมา

หง หย่งเซียงยังอธิบายด้วยว่า มีหลายสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไตวาย เช่น โรคเรื้อรัง ยาแก้ปวด หรือสิ่งของที่ไม่ทราบที่มา ในไต้หวันมีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังเกือบ 2 ล้านคน และหลายคนในนั้น ไม่มีอาการ อย่างไรก็ตาม เมื่อทานอาหารอะไรเข้าไปแล้วมีโอกาสที่จะกระตุ้นภาวะไตวายเฉียบพลันได้

โรงพยาบาลเกาสงอธิบายว่าเมื่อการทำงานของไตลดลง ร่างกายจะไม่สามารถรักษาระดับการเผาผลาญให้เป็นปกติได้ รวมถึงของเสียในร่างกายจะไม่สามารถขับออกทางปัสสาวะได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นสารเหล่านี้จะสะสมในร่างกายทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ภาวะแทรกซ้อนนี้เรียกว่า “Uremia” สาเหตุทั่วไป ได้แก่ ไตวายเรื้อรัง, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, นิ่วในทางเดินปัสสาวะ, เนื้องอก หรือการใช้ยาที่เป็นพิษต่อไตในระยะยาว

บทความระบุว่าไม่มีอาการร้ายแรงในระยะเริ่มต้น และอาการที่พบบ่อยในระยะสุดท้าย ได้แก่ เหนื่อยล้า, บวมน้ำที่แขนขา, ปัสสาวะลดลง, คลื่นไส้, อาเจียน, เบื่ออาหาร, คันผิวหนัง, หายใจลำบาก และโลหิตจาง

นอกจากนี้ หงหย่งเซียงเตือนว่า สารพิษมักจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท หนึ่งคือสารพิษจากสิ่งแวดล้อม เช่น สารพิษที่ผลิตขึ้นจากการต้มสิ่งของในหม้ออลูมิเนียม PM2.5 สารให้ความหวาน สารกันบูด รวมถึงเด็กที่เคี้ยวพลาสติก ซึ่งมีสารเติมแต่งพลาสติไซเซอร์ สารพิษเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปและสามารถย่อยสลายและเผาผลาญได้โดยไตหรือตับ

ส่วนอาหารปกติที่รับประทานทุกวัน หลังจากทานเข้าไปแล้ว หากร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้จะแปลงเป็นสารพิษในร่างกาย ซึ่งอาจทำลายระบบประสาทส่วนกลางและเม็ดเลือด ส่งผลให้เกิดภาวะสมองเสื่อม สิว หรือโรคโลหิตจาง

ขอบคุณที่มาจาก Ettoday

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ