“ชัชชาติ” รับปรับลดราคารถไฟฟ้าสีเขียวเหลือ 20 บาทตลอดสายไม่ได้ ต้องขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ติดสัมปทานเอกชน ต่อสัญญาหลังปี 72 เป็นอำนาจ ครม.พิจารณา

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงเรื่องที่จะหารือในวันนี้ ว่าขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่าจะพูดคุยเรื่องอะไร หากสอบถามเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวตนก็จะตอบ เพราะขณะนี้เรื่องค้างอยู่ที่กรุงเทพมหานคร

ส่วนมองว่านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะติดปัญหาที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่ ย้ำว่าต้องไปดูรายละเอียดของนโยบายก่อน หากกำหนดราคาให้ 20 บาทตลอดสายจริง รัฐจะต้องนำเงินมาจ่าย เพราะถึงปี 2572 ยังติดสัมปทานอยู่ เอกชนจึงมีสิทธิ์เก็บค่าโดยสารตามที่ต้องการ ฉะนั้นต้องรอให้ผ่านปี 2572 ก่อนรัฐจะสามารถจัดเก็บเงินและกำหนดค่าโดยสารเองได้ ย้ำว่าเก็บราคา 20 บาทคาดว่าจะไม่คุ้มค่า เพราะมีค่าใช้จ่ายอยู่จำนวนมาก จึงควรเก็บในราคา 33 บาทถึงจะเหมาะสม หากเก็บไม่ถึงจะขาดทุน กทม.ต้องนำไปจ่ายค่าจ้างเดินรถ

ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลมูลความผิด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในขณะนั้น พร้อมพวกรวม 12 คน ในคดี BTSC เดินรถไฟสายสีเขียวในปี 2555 เข้าข่ายผิดกฎหมายพรบ.ฮั้วประมูล นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีคำสั่งจากศาล ต้องรออัยการสูงสุดจะสั่งฟ้องหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะมีรายละเอียดอยู่แล้ว

ทั้งนี้ เพื่อให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเดินหน้าต่อไปได้ กทม.ต้องการใช้อำนาจ ครม.ใหม่ มีมติยกเลิกคำสั่งมาตรา 44 เพื่อโอนสายสีเขียวกลับคืนรัฐ เพราะเป็นตัวต้นเรื่อง นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ทางรัฐบาล เพราะม.44 กำหนดไว้ว่า รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ต่อสัญญาเอง หากไม่สำเร็จให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินการแทน เรื่องจึงค้างอยู่ที่คณะรัฐมนตรี แต่ทั้งนี้ ถ้ายังคงม.44 ไว้ จะเป็นการนำมูลหนี้ทั้งหมดเป็นเงื่อนไขในการต่อสัญญา เสมือนเป็นการต่อสัญญาชำระหนี้ ซึ่งการทำ ม.44 เทียบเท่ากับการทำ พรบ.ร่วมทุน แต่หนี้ยังไม่หมด แต่คงไม่ถึงขนาดแก้กฎหมายในสภา เพราะหากกระทรวงมหาดไทยเสนอ ครม. คงดำเนินเรื่องไปตามนั้น

สำหรับกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้หน่วยงานต่างๆ เสนอยกเลิกคำสั่งต่างๆของ คสช. มองว่า ครม.จะชงเรื่องเลยหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะตนเป็นเพียงท้องถิ่น ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี