ฉาวสีกากี! ด.ต.สายตรวจ รวมหัวกับเมีย ค้ายานรก ยัดฝิ่นดิบใส่ถุงดำซุกท้ายเก๋ง สายข่าวแจ้งเรียกตรวจรถ แต่พิรุธออก เผยโทษหนักกว่าคนทั่วไป 3 เท่า

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 (บก.คปส.1 ) ร่วมกับตำรวจภูธร ทหารผาเมือง ฝ่ายปกครองเชียงดาว ตำรวจตระเวนชายแดน 335 สุนัขทหารผาเมือง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการด่านตรวจแก่งปันเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ขณะปฏิบัติหน้าที่ทำการตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด

ทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ พบรถต้องสงสัยจึงเรียกรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว ทะเบียน กบ7100 เชียงใหม่ ซึ่งคนขับ เเสดงอาการมีพิรุธ จึงขอตรวจค้น

ผลการตรวจค้นพบ ผู้ต้องหา 2 คน ชายหญิงคือ ด.ต.คมภูศิษฐ์ อายุ 50 ปี อาชีพ รับราชการตำรวจ ประจำการอยุ่ที่ สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เป็นสายตรวจรถยนต์ฝ่าบปราบปราม ชาวต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ พร้อม นางกรณ์กาญจน์ ภรรยา อายุ 47 ปี ชาวต.หนองบัว อ.ไชยปราการ ตรวจพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่นดิบ) ผิดกฎหมาย จำนวน 50 ก้อน ก้อนละ 1.6 กิโลกรัม น้ำหนักรวมประมาณ 80 กิโลกรัม ซุกซ่อนในท้ายรถ ใส่มาในถุงดำจำนวน 3 ถุงใหญ่

นอกจากนี้ ยังพบอาวุธปืนพก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 2 กระบอก และ แม็กกาซีน 2 แม็ก ปืนแม็กกาซีน Sig sauer 9 ม.ม. พร้อมแม็กกาซีน และปืนแม็กกาซีน Baletta 9 ม.ม. พร้อมแม็กกาซีนกระสุน 9 ม.ม.จำนวนหนึ่ง เงินสด จำนวน 71,500 บาท

จากการซักถามขั้นต้น ด.ต.คมภูศิษฐ์ ให้การยอมรับว่า ยาเสพติดจำนวนดังกล่าวเป็นของตนจริง โดยเเจ้งว่ารับมาจากบริเวณข้างทาง อ.ฝาง ได้ค่าจ้างเป็นเงินสดจำนวน ก้อนละ 1,500 บาทรวมเป็นเงิน 75,000 บาท ใช้ไปบางส่วน ทางสายข่าวกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 สืบทราบและติดตามมาตลอดหลายเดือน จนวันนี้ติดตามมาและยังขับรถมารอที่ด่าน เพื่อขอความร่วมมือบูรณาการร่วมกันในการจับกุม เพราะผู้ต้องหามีอาวุธปืน สามารถที่จะยิงต่อสู้ได้ทันที

กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 นำตัวผู้ต้องหามาขยายผลตรวจที่บ้าน และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาว เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ซึ่ง ด.ต.คมภูศิษฐ์เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จะมีโทษเพิ่มมากกว่าประชาชนถึง 3 เท่า