“จุรินทร์”ลั่น ไม่มีใครทิ้งใคร หลัง ตระกูล”เสนพงศ์” ลาออก ทิ้งปชป. แจง 1 เขตจะส่งผู้สมัคร 2 คนไม่ได้ ชี้เลือกผู้สมัครตามความเหมาะสม มีขั้นตอนพิจารณา

วันที่ 13 พ.ย.65 ที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเปิดตัวผู้สมัครส.ส.พังงา ว่า พร้อมแล้ว เพราะได้ตัวผู้สมัครแล้ว รอแค่การเปิดตัว สำหรับภาคใต้จะทยอยเปิดตัว และเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ได้เปิดตัวไปแล้ว 8 เขต ที่นครศรีธรรมราช และอีกสัปดาห์จะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้นจะเปิดตัวผู้สมัครส.ส.พัทลุง ภูเก็ตและพังงา ซึ่งได้ตัวผู้สมัครเกือบครบหมดแล้ว

• ลาก่อน ปชป. น้องเทพไท เดือด ประกาศยกตระกูลเสนพงศ์ ลาออก

เมื่อถามถึงกรณี ตระกูลเสนพงศ์ ลาออกจากปชป.ยกตระกูล โดยระบุว่าไม่ได้ทิ้งพรรค แต่พรรคทิ้งเขา นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่มีใครทิ้งใคร เพียงแต่พรรคต้องพิจารณาไปตามความเหมาะสม มีขั้นตอนกระบวนการ ในการพิจารณา ตนขอเรียนว่าพรรคให้ความเป็นธรรมกับทุกคนที่สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคฯ แต่ 1 เขตมีผู้แทนฯได้ 1 คนจะส่ง 2 คนก็ไม่ได้ ยกเว้นสนใจจะไปลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ถ้าไม่ลงบัญชีรายชื่อพรรคก็ไม่มีทางออก ซึ่งไม่ว่าพรรคไหนไม่ใช่เฉพาะปชป.และไม่ใช่บางพรรคส่ง 2 คนในเขตเดียว ทำไมปชป.ส่งได้คนเดียว ซึ่งทุกพรรคก็ส่งผู้สมัครได้เขตละ 1 คนเหมือนกัน

เมื่อถามว่าปชป.จะรับเมืองการเมืองหลังประชุมเอเปคอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราก็ทำหน้าที่พรรคการเมืองมาตลอดเวลา หลังการประชุมเอเปคสถานการณ์ทางการเมืองจะเดินใกล้โหมดเลือกตั้งมากขึ้น เพราะใกล้ที่จะครบเทอมของสภาฯชุดนี้ในวันที่ 24 มี.ค. 66 ดังนั้นหลังเอเปคไปอีกเดือนยิ่งใกล้เข้าไปอีก เพราะฉะนั้นสถานการณ์ทางการเมืองในเรื่องการเลือกตั้งจะมีความเข้มข้นขึ้น ทุกพรรคการเมืองต้องลงพื้นที่หาเสียงมากขึ้น และการโยกย้ายของทุกพรรคการเมืองก็จะมีมากขึ้น

ต่อข้อถามว่า ผ้บริหารพรรคฯจะต้องมาคุยกันเพื่อหยุดเลือดไหลออกหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ผู้บริหารพรรคฯคุยกันตลอด และเราก็ทำงานไปด้วยกันด้วยดี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในหัวหน้าพรรคฯ เลขาพรรคฯ กก.บห. สส. และสมาชิกพรรค เพราะฉะนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร เราทำงานอย่างมียุทธศาสตร์ มีเป้าหมายไม่สะเปะสะปะ ซึ่งมีการกำหนดไว้หมดแล้วว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่เป้าหมายพิเศษ และพื้นที่ใดที่ต้องไปดำเนินการ1,2,3,4,5 เพราะการเลือกตั้งเที่ยวหน้าเปลี่ยนไปจากบัตรเลือกตั้งใบเดียวเป็นบัตรสองใบ ดังนั้นยุทธศาสตร์ในการหาเสียงก็จะต้องแตกต่างกันไป