จีนเตือนภัย “พายุทรายถล่ม” ทำปักกิ่งอ่วมหนัก “ฝุ่นละออง” พุ่งทะลุ 560!
ซีเอ็นเอ็น รายงานความคืบหน้าหลังจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาจีนประกาศเตือนภัยพายุทรายระดับสีน้ำเงินในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ รวมถึงกรุงปักกิ่ง เมื่อวันจันทร์ที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า อิทธิพลของพายุทรายก่อให้เกิดฝุ่นปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง และทำให้ค่ามลพิษทางอากาศพุ่งสูง
ศูนย์ติดตามด้านสิ่งแวดล้อมในปักกิ่ง ระบุว่า กรุงปักกิ่งมีค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) ที่ 561 เมื่อเวลา 08.00 น. มากกว่าค่าเฉลี่ยรายวันที่ 45 ถึง 10 เท่าตัว ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และส่งผลกระทบต่อระบบการหายใจและปอดได้
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาจีน เผยอีกว่า พายุทรายในช่วงฤดูหนาวก่อตัวขึ้นในเขตปกครองมองโกเลีย และค่อยๆ เคลื่อนตัวไปทางใต้ ส่งผลให้พัดถล่มพื้นที่ในทางตอนเหนือของมณฑลเหอเป่ยและมณฑลซานซี ทางตะวันตกมณฑลกานซู รวมทั้งตอนกลางและภาคตะวันตกของมองโกเลียในซึ่งกำลังประสบกับพายุไซโคลนรุนแรง ทำให้ทรายและฝุ่นละอองเคลื่อนตัวแผ่กระจายไปทางเหนือ ตะวันออก และตอนใต้ของประเทศ คาดว่าจะมีพายุทรายพัดถล่มต่อเนื่องไปจนถึงวันอังคารที่ 13 ธ.ค. ขณะที่ส่วนอื่นๆ ของประเทศ รวมทั้งทางเหนือของเขตปกครองตนเองซินเจียงกำลังเผชิญหน้ากับลมกะโชกแรง
ทั้งนี้ ปักกิ่งเคยถูกพายุทรายพัดถล่มครั้งใหญ่เมื่อปี 2564 เนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้งอย่างหนัก ทำให้พื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของจีนกลายเป็นทะเลทรายอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2543 รัฐบาลจีนลงทุนงบประมาณกว่า 34,000 ล้านบาท เพื่อป้องกันพายุทราย ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ ปลูกป่าและฟื้นฟูระบบนิเวศ ติดตั้งดาวเทียมติดตามพายุทรายและแจ้งเตือนหน่วยงานด้านสภาพอากาศล่วงหน้า