“บิ๊กโจ๊ก” พาลูกน้อง 8 นายแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังได้รับการประกันตัว ยันพร้อมสู้เต็มที่ จับตาสัปดาห์หน้ามีบิ๊กเซอร์ไพรส์ สะเทือนวงการสีกากีแน่นอน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมตำรวจ 8 นาย ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ที่ได้รับการประกันตัวมา มาแถลงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมสู้เต็มที่ วันที่ 25 ตุลาคม 66 นี้ศาลนัดไต่สวนวันนี้ที่มา อยากจะพาตำรวจทั้ง 8 นายมา แสดงความบริสุทธิ์ใจ และตนก็ให้ทางทนายชี้แจงไปหมดแล้ว จะไม่ขออธิบายอะไรเยอะ
นายอนันต์ชัย กล่าวว่า มีทีมทนายอนันต์ชัย ช่วยดำเนินคดีทั้งแพ่ง และอาญาและศาลปกครองดูเป็นเรื่องๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก และสนใจอย่างเดียวว่าถูกหรือผิด และถามเขาแล้วยืนยันว่าไม่ผิดส่วนกรณีของมินนี่ที่กล่าวหาว่า เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ถามว่าตำรวจเขาอาจจะรู้หรือไม่รู้ ซึ่งเขาต้องมาบอกว่า แต่ถ้าบอกว่า ไม่รู้ และผมได้เงินมาไปจ่ายให้พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว ขายพ่อค้า ตำรวจต้องไปตามเช็กไล่เช็กบิลพ่อค้าหรือไม่ คิดว่าไม่ใช่สิ่งที่เปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นข้อมูลลับที่ตำรวจมา และนำให้คนๆ หนึ่งมาเผยแพร่ต่อสาธารณะชน
นายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า คนที่นำข้อมูลมาเปิดเป็นโฆษก สตช.หรือไม่ ขอให้ชุดตำรวจเตรียมตัวไว้ เรื่องนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดู เราหลังพิงเชือก เราสู้แบบผู้มีปัญญาชน ตำรวจทำงานดีเยอะแยะแต่พอทีเดียวเอาเขาตายฝากบอกตำรวจว่าให้ในสิ่งที่ถูกต้องอย่าทำในสิ่งที่ถูกใจ แต่ถ้าทำในสิ่งที่ถูกใจ แต่ไม่ถูกต้อง ต้องบอกว่านรกมีจริง และถ้าคนไหนผิดก็ผิด แต่ถ้าไม่ผิดต้องให้ความเป็นธรรม
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ได้กล่าวถึงประเด็นกรณีภาพถ่ายกับมินนี่ ว่า เขาก็ถ่ายรูป มีการขอถ่ายรูป นั่งใกล้บ้าง ซึ่งรู้จักกันแน่นอนและมีความสนิทสนมกันพอสมควร แต่ไม่ทราบว่ามินนี่ทำอะไร ยืนยันว่าไม่ได้ติดต่อกับมินนี่ตั้งแต่ถูกจับ ซึ่งโทรศัพท์หาตนตอนถูกจับ 1 ครั้ง พูดคุยกันไม่ถึง 1 นาที ยืนยันว่าไม่ได้ไปประกันตัว ไปถาม ผกก.โรงพักได้เลยว่า ตนโทรศัพท์ไปหาหรือไม่
รู้จักสนิทสนมกับมินนี่ปี 2563 ระยะเวลา 2 เดือน และหายไป 2 ปี มาเจออีกครั้งต้นปี 2566 และเจอกันไม่กี่ครั้ง โดยให้มินนี่มาตอบดีกว่า เพราะตนเป็นผู้ชาย ให้ผู้หญิงพูดจะได้ไม่เสียหาย อีกทั้งรู้จักกับแม่ของมินนี่ ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ในช่วงที่เป็น ผกก.สภ.เมืองเลย และเป็น กก.ตร.โรงพัก ปี 2563 โดยไปเจอกันในงานเลี้ยง 2 ครั้ง จากนั้นตนย้ายไปอยู่ขอนแก่น 2 ปีไม่เคยติดต่อกันเลย
พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะตน และโอนเงินไปเกี่ยวข้องกับคนอื่น ๆ อย่างน้องชาย หรือพาดพิงถึงผู้บังคับบัญชา ซึ่งเรื่องนี้ตนเองต้องรับและแก้เอง โดยมอบหมายทนายความดำเนินการทั้งหมด
ส่วนรูปภาพคู่กับมินนี่ เป็นภาพช่วงต้นปีนี้ สังเกตว่าอยู่ในร้านอาหาร งานเลี้ยง ซึ่งมีคนขอถ่ายรูปก็เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ปฏิเสธความรู้จักและสนิทสนม ซึ่งเรื่องส่วนตัวถ้ามีเจตนาทำให้เสียหายก็จะมอบทนายความดำเนินการทุกเรื่อง เพราะถือว่าทำเกินไป ยืนยันไม่เสียกำลังใจ ทำไปตามกฎหมาย
พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวอีกว่า ตนไม่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน กรณีที่บอกว่าตนเองเป็นผู้สั่งการ ให้สังเกตว่ามียอดเงินโอนมาในจำนวนดังกล่าวจะเป็นเจ้าของได้อย่างไร รวมทั้งไม่มีบัญชีม้า เพราะมีเพียงบัญชีเงินเดือนพ.ต.อ.ภาคภูมิ ยังตั้งข้อสังเกตกรณีขอออกหมายจับโดยไม่ระบุยศตำรวจ แต่ระบุว่ามีอาชีพรับจ้าง อีกทั้งตำรวจบางนายมียศถึง “พล.ต.ต.” ซึ่งไม่มีเจตนาหลบหนี และเดินทางไปมอบตัว หากตรงไหนทำให้เสียหายก็จะให้ทนายความดำเนินการ
ด้าน พล.ต.ต.นำเกียรติ กล่าวว่า เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิสูจน์ทราบกันต่อไป ยืนยันไม่ได้วิตกกังวล เพราะเรื่องจริงและความจริงจะชัดเจนในวันหน้า ส่วนพ.ต.ท.คริษฐ์ ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องหมุนเงินไม่ทัน และไม่เล่นการพนันแน่นอน โดยขอให้สอบถามรายละเอียดกับทนายความ เพราะเป็นเรื่องของสำนวนคดี
สุดท้ายก่อนจบการแถลง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. ได้แสดงความยินกับ บิ๊กต่อ พบ.ตร.คนใหม่ว่า ตนเองไม่มีความเห็น ก็ต้องยินดีกับท่าน เพราะท่านเป็น ผบ.ตร. ต้องร่วมงานกัน พร้อมทั้งให้นายอนันต์ชัยตอบคำถาม ซึ่งระบุว่า อาจจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์วงการสีกากีในช่วงสัปดาห์หน้า ไม่มีมวยล้ม นอกจากนี้ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ศาลอาญาสั่งไต่สวนคำร้องละเมิดอำนาจศาลกรณีขอหมายค้นบ้าน
