จับตาประชุม COP 27 ถกปมโลกร้อน เผยอุณหภูมิจ่อเพิ่ม 2.8 องศา

Home » จับตาประชุม COP 27 ถกปมโลกร้อน เผยอุณหภูมิจ่อเพิ่ม 2.8 องศา



จับตาถกโลกร้อนวิกฤต เผยอุณหภูมิจ่อเพิ่มขึ้นทะลุ 2.8 องศา แคนาดากระอักคลื่นความร้อนหน้าหนาว 23 องศา

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. เอเอฟพีรายงาน กระแสจับตามองของประชาคมโลกต่อการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP) ครั้งที่ 27 ที่เปิดฉากขึ้นแล้วที่เมืองชาม เอล ชีกห์ ประเทศอียิปต์ ท่ามกลางปัญหาโลกร้อนที่กำลังทวีความรุนแรงตอกย้ำด้วยความขัดแย้งระหว่างชาติมหาอำนาจ สงคราม และภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังย่ำแย่จากเงินเฟ้อ

การประชุมที่เกิดขึ้นนั้นถูกตั้งความหวังจากหลายฝ่ายหลังผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญพบว่า มาตรการที่ชาติภาคีได้ให้ไว้ตามข้อตกลงปารีสเพื่อแก้ไขปัญหาโลกร้อนนั้นหากปฏิบัติได้จริงจะสามารถลดอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกลงได้ไม่ถึง 1 องศาเซลเซียส และคาดว่าอุณหภูมิเฉลี่ยพื้นผิวโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 2.8 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษที่ 21

Signage promoting this year’s United Nations global summit on climate change, COP27. Composite: Guardian Design/AP

เป้าหมายของข้อตกลงปารีสนั้นเป็นการสกัดกั้นไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นทะลุเส้นตายที่ 1.5 องศาเซลเซียส เนื่องจากหากทะลุเส้นตายดังกล่าวนี้ไปแล้วจะส่งผลให้มนุษยชาติไม่มีวันที่จะแก้ไขให้สภาพอากาศหวนกลับมาเป็นแบบเดิมได้อีก

โดยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปจะส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขั้วนำไปสู่ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง อาทิ ความยาวนานของฤดูฝนที่น้อยลง แต่ปริมาณน้ำฝนที่มากขึ้นมหาศาลต่อการตกหนึ่งครั้ง นำไปสู่ความเสี่ยงด้านอุทกภัยและความแห้งแล้งที่ยาวนาน ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกที่จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ทำให้เมืองริมทะเลไม่สามารถอยู่อาศัยได้และต้องเกิดการย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ทั่วโลก เช่น นครอเล็กซานเดรียของอียิปต์ที่อาจถูกกลืนใน 30 ปี

นายริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ กล่าวเรียกร้องให้บรรดาผู้นำโลกเร่งรัดและยกระดับการปฏิบัติตามข้อตกลงปารีส เพื่อเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นพลังงานสะอาด พร้อมยืนยันว่าอังกฤษจะเดินหน้าพัฒนาประเทศไปสู่การเป็นชาติมหาอำนาจด้านพลังงานสะอาด และว่าการแก้ไขปัญหาโลกร้อนนั้นเป็นรากฐานที่สำคัญของความมั่นคงและความมั่งคั่งในอนาคต

อย่างไรก็ดี การประชุมดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจ อาทิ สหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งเป็นสองชาติที่ปล่อยก๊าซก่อโลกร้อนมากที่สุดในโลก ทว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองชาตินั้นกลับอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 40 ปี ทำให้จีนประกาศยุติความร่วมมือแก้ไขโลกร้อนกับสหรัฐฯจากกรณีความขัดแย้งเกาะไต้หวัน

The COP27 gathering of nearly 200 nations will be dominated by the growing need of virtually blameless poor nations for money to cope with climate change JOSEPH EID AFP

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวยืนยันว่าจะเดินทางมาร่วมประชุม COP27 หลังจากการเลือกตั้งมิดเทอมที่จะเกิดในวันที่ 8 พ.ย.นี้ โดยทางการสหรัฐฯและสหภาพยุโรปหรืออียูถูกโจมตีจากนานาชาติว่า พยายามเตะถ่วงการแก้ไขปัญหา เนื่องจากเกรงว่าจะต้องจ่ายเงินมหาศาลอย่างไม่มีวันหมดเพื่อช่วยเหลือชาติรายได้น้อย

นายไซมอน เสตียลล์ เลขานุการบริหาร COP กล่าวว่า ประเด็นหารือหลักของการประชุมนี้เป็นเรื่องของงบประมาณ โดยสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้เป็นงบประมาณที่ไม่เพียงพอจากชาติพัฒนาแล้วที่ร่ำรวยมาจากการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลในอดีต ขณะที่ชาติที่กำลังได้รับผลกระทบและเสี่ยงมากที่สุดกลับเป็นชาติที่รายได้น้อยและไม่ใช่ชาติที่สร้างก๊าซโลกร้อนเป็นหลัก

วันเดียวกัน ยังมีรายงานว่า อุณหภูมิเฉลี่ยที่เมืองมอนทรีออล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา ทำสถิติสูงที่สุดประจำเดือนพ.ย. ทั้งที่เป็นช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวแต่กลับเผชิญกับอุณหภูมิสูงทะลุ 23 องศาเซลเซียส จากเดิมที่ปกติแล้วอุณหภูมิช่วงนี้จะอยู่ที่ราว 8 องศาเซลเซียส ขณะที่เดือนต.ค. ที่ผ่านมานั้นเมืองมอนทรีออลมีค่าเฉลี่ยอุณหภูมิสูงกว่าปกติ 2 องศาเซลเซียส

นายโดมินิก มาร์เทล จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและอุตุนิยมวิทยาแคนาดา กล่าวว่า ตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมานั้นนับเป็นครั้งแรกที่พบอุณหภูมิสูงขนาดนี้ในเดือนพ.ย. โดยการเพิ่มขึ้นนั้นมีแนวโน้มขยับขึ้นเรื่อยๆ และทำลายสถิติเก่าล่าสุด 22.4 องศาเซลเซียสของเดือนพ.ย. 2563

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ