จวกทัพเมียนมาส่ง “บินทิ้งระเบิด” – บีบีซี รายงานวันที่ 12 เม.ย. ถึงกระแสประณามหลังเกิดเหตุกองทัพเมียนมา โจมตีทางอากาศ ในเมืองคันบาลู ภาคซะไกง์หรือสะกาย พื้นที่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหาร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 ราย เป็นผู้หญิง 15 ราย และเด็กอีกจำนวนหนึ่ง ตอกย้ำวิกฤตความรุนแรงต่อเนื่องนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาเข้ามามีอำนาจภายหลังก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนเมื่อปี 2564
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งประชาชนจากชุมชนใกล้เคียง เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวสำนักงานแห่งใหม่ของกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (พีดีเอฟ) กลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหาร ที่หมู่บ้านปาซีจี เมื่อเวลาราว 07.00 ของวันที่ 11 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น
โดยเครื่องบินของกองทัพเมียนมา 1 ลำเปิดฉากทิ้งระเบิดโจมตี จากนั้นมีเฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำบินเข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุและรัวปืนกลถล่มหมู่บ้านเป็นเวลานานกว่า 20 นาที
ชาวบ้านหลายคนที่รอดชีวิตมาได้โพสต์คลิปวิดีโอบันทึกสถานการณ์หลังหมู่บ้านโดนโจมตีผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เผยให้เห็นการสังหารน่าสยดสยอง มีร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนศพกระจายเกลื่อน ขณะที่บ้านเรือนหลายหลังถูกไฟไหม้เผาวอด
“ได้โปรดร้องออกมาถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ เราจะช่วยคุณ” เสียงเจ้าของคลิปตะโกนถาม ก่อนมีเสียงเรียกระหว่างที่ชาวบ้านกลุ่มนี้เดินผ่านหมู่บ้านปาซีจี และกล่าวอีกว่าพยายามนับศพผู้เสียชีวิต แต่ทำไม่ได้เพราะมีชิ้นส่วนกระจัดกระจายเต็มไปหมด
ด้านนายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวถึงเหตุการณ์โจมตีที่หมู่บ้านปาซีจีว่า ตกใจมากและว่าการกระทำของฝ่ายโจมตีถือเป็นการเพิกเฉยต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง
“ตามที่ผมได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีเหตุผลอันควรเชื่อได้ว่ากองทัพเมียนมาและกองกำลังติดอาวุธในสังกัดมีส่วนต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในวงกว้างอย่างมาก ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2564 ซึ่งบางกรณีอาจเข้าข่ายเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงคราม”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ชายแดนเมียนมา ปะทะดุ! ตรึงเข้ม ไม่ปิดด่านแม่สอด พบคนไทยเจ็บ 1
- ทหารเมียนมา สังหารหมู่ 31 ศพ พระสงฆ์-ประชาชนถูกยิงดับตรงกำแพงวัด