จรวดบริษัท “สเปซเอกซ์” ของนายอีลอน มัสก์ เกิดระเบิดกลางอากาศเพียงไม่กี่นาทีหลังถูกปล่อยขึ้นจากฐานปล่อยจรวดรัฐเทกซัส ขณะที่ทีมงานยืนยันความสำเร็จ
บีบีซี รายงานว่า จรวด “สตาร์ชิพ” (Starship) ของบริษัท “สเปซเอกซ์” ทำการทดสอบการส่งจรวดขนาดยักษ์ “ซูเปอร์ เฮฟวี” เกิดการระเบิดกลางอากาศเพียงไม่กี่นาทีหลังถูกปล่อยขึ้นจากฐานปล่อยจรวดในเมืองโบกา ชิกา รัฐเทกซัส ก่อนที่จะตกลงบริเวณอ่าวเม็กซิโก เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยด้านในจรวดดังกล่าวไม่มีนักบินอวกาศ หรือดาวเทียมอยู่บนจรวดลำนี้ ซึ่งการปล่อยจรวดมีขึ้นท่ามกลางการเฝ้ารอชมของประชาชนที่ไปปักหลักกันบริเวณเกาะเซาธ์ ปาเดร ไม่ไกลจากจุดปล่อยยาน
ด้านผู้เชี่ยวชาญของสเปซเอกซ์ ระบุว่า ภายในระยะเวลาประมาณ 4 นาที หลังการทดสอบชิ้นส่วนฐานล่างของยานหลุดออกจากกันหลังจากพุ่งออกจากฐาน ที่ระดับความสูงประมาณ 29 กิโลเมตรเหนือพื้นดิน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเครื่องยนต์ประมาณ 5-6 เครื่อง จากทั้งหมด 33 เครื่อง หยุดทำงานหรือไม่อาจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนจะเสียการควบคุมและระเบิดในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ด้านนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทสเปซ เอกซ์ กล่าวว่า ในแง่ของวิศวกรรมยังถือได้ว่าภารกิจครั้งนี้ยังประสบความสำเร็จ เพราะไม่ได้ระเบิดที่ฐานและทำแท่นปล่อยเสียหาย โดยบอกว่าการทดสอบปล่อยจรวดจะต้องมีขึ้นบ่อยๆ และไม่ต้องกลัวความเสียหาย พร้อมประกาศว่าการทดสอบจรวดสตาร์ชิพครั้งใหม่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ ทางองค์การการบินพลเรือน ผู้ออกใบอนุญาตการปล่อยจรวดในสหรัฐ ระบุว่า จะมีการสืบสวนกรณีความผิดปกติที่เกิดขึ้น อันเป็นการสืบสวนตามแนวทางปฏิบัติสำหรับกรณีที่มีการสูญเสียยานระหว่างการบิน
อีกทั้งยังกล่าวอีกว่า การใช้ยานสตาร์ชิปพร้อมจรวดซูเปอร์เฮฟวี ซึ่งมีความสูงรวมกัน 119 เมตร และมีมวลมากถึง 5,000 ตัน ถือเป็นจรวดทรงพลังและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นพาหนะส่งมนุษย์เดินทางไปยังดวงจันทร์ ภายใต้โครงการ “อาร์ทิมิส 3” ซึ่งกำหนดไว้ในปี 2568 ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ภารกิจที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นความพยายามครั้งที่ 2 หลังจากที่เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทสเปซ เอกซ์ต้องประกาศยกเลิกการปล่อยจรวดสตาร์ชิพ เพียงไม่กี่นาทีก่อนกำหนดการ เนื่องจากพบปัญหาวาล์วแรงดันเย็นจัดจนแข็งตัว