คาดมาถึงหมื่นคน! กลุ่มผู้ค้าสลากรายย่อย จ.เลย เตรียมเสบียงเข้าสมทบ ม็อบลอตเตอรี่ ที่ทำเนียบ ผู้สานงานเครือข่าย ชี้รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ตรงจุด

จากกรณีนายจีระศักดิ์ น้อยก่ำ ประธานชมรมเครือข่ายผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อยจังหวัดเลย ได้นำผู้ค้าสลากรายย่อยจังหวัดเลย พร้อมกับเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยทั่วประเทศ ปักหลักชุมนุมค้างคืน เพื่อรอยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพื่อเรียกร้องให้ปลดผอ.และบอร์ดบริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และขอให้จัดสรรโควตาให้กับผู้ค้าสลากรายย่อยตัวจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว วันที่ 18 ก.ค.2565 ที่จ.เลย นายรุ่งศักดิ์ ธรรมมิยะ ผู้สานงานเครือข่ายผู้ค้าสลากรายย่อยจังหวัดเลย ได้ระดมกลุ่มผู้ค้าสลากรายย่อยตัวจริง พร้อมเตรียมเสบียงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นข้าว มะละกอ ปลาร้า เพื่อเดินทางไปสมทบกับกลุ่มผู้ค้าสลากรายย่อย ที่กำลังชุมนุมกันอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล กทม. โดยคาดว่าจะมีผู้ค้าสลากรายย่อยมารวมตัวกันถึงหลักหมื่นต้นๆ เพื่อกดดันรัฐบาลถ้าไม่ยอมตามข้อเรียกร้อง

นายรุ่งศักดิ์ เผยว่า จังหวัดเลยได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของตลาดลอตเตอรี่ ด้วยเหตุที่ชาวบ้านที่นี่ 30,000-40,000 กว่าราย มีอาชีพจำหน่ายสลากลอตเตอรี่ วันนี้รัฐบาลแก้ไขไม่ถูกจุด การที่แก้ปัญหาโดยการที่รัฐจัดจำหน่ายเอง และส่วนหนึ่งทำไมจัดโควตาให้ผู้ค้าสลากรายย่อยสามารถขายในราคา 80 บาทได้ ผู้ค้าสลากรายย่อยเคยหาเงินให้กับรัฐมาเนิ่นนาน ทำไมไม่จัดโควตาให้กับพวกเรา

วันนี้ต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้า วันนี้รัฐยังได้ตัดโควตาเขาอีก ถูกตัดไปเฉพาะคนจังหวัดเลยกว่า 2,000-3,000 ราย โควตาพวกนี้หายไปไหน หรือยึดไปแล้วเอาไปขายต่อในระบบดิจิทัล นี้รัฐแก้ปัญหาถูกจุดแล้วหรือ นี้คือกลั่นแกล้งประชาชน วันนี้เขาอดทนไม่ได้แล้ว ที่เขาเข้ากทม. เขาต้องเสียค่ารถเอง ค่ากินเอง ทุกคนเสียค่าเหมารถคนละ 640 บาท ถ้าไม่เดือดร้อนก็คงไม่พากันไปหรอก

วันนี้ในพื้นที่กำลังระดมคนเข้าสมทบกันให้ได้จำนวนเยอะๆ ใครไปขายลอตเตอรี่ก็ให้ลูกหลานไปสมทบร่วมกับพี่น้องที่กทม. ใน 2-3 วันเราจะเสริมกำลังเข้าไปสมทบ ถ้ารัฐบาลไม่คิดแก้ไข ไม่ปลดบอร์ดชุดนี้ รัฐบริหารมา 8 ปี แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง คนจังหวัดเลยมีอาชีพขายสลากมีจำนวนมาก

อยากฝากที่นายกรัฐมนตรีอย่าคิดแต่แก้โดยการตั้งคณะกรรมการ ไม่มีผลอะไรเลย วันนี้เราเตรียม ข้าว มะละกอ ปลาร้า น้ำ เข้ากทม. พร้อมกับจำนวนคนเข้าสมทบ และทยอยเข้าไปเพิ่มอีก คาดว่าคงไม่น้อยกว่า 9000-10,000 คน อย่างแน่นอน