ครอบครัวช็อก! ปิกอัพทับ 3 ขวบดับ วิ่งตัดหน้าจะข้ามถนน เผยลางร้ายสิ้นปี

Home » ครอบครัวช็อก! ปิกอัพทับ 3 ขวบดับ วิ่งตัดหน้าจะข้ามถนน เผยลางร้ายสิ้นปี



ครอบครัวช็อก! ปิกอัพทับ 3 ขวบดับ วิ่งตัดหน้าจะข้ามถนน เผยลางร้ายสิ้นปี พระทักครอบครัวจะมีเคราะห์ใหญ่ ให้ปล่อยปลาที่เลี้ยง

วันที่ 2 ม.ค.65 พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุเด็กชายวัย 3 ขวบ ถูกรถปิกอัพทับศีรษะเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนกลางหมู่บ้านวังทอง หมู่ 14 ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร ร.พ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี

ที่เกิดเหตุพบร่าง ด.ช.กัน วัย 3 ขวบ 4 เดือน สภาพถูกรถทับศีรษะเสียชีวิตกลางถนน ใกล้กันพบรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำ ทะเบียน 3กว-3013 กทม.ซึ่งเป็นคันที่เกิดเหตุ จอดอยู่ โดยมี นายสุวิทย์ แก้วอำนาจ อายุ 47 ปี เป็นคนขับ ยืนรอให้การกับตำรวจด้วยความตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจจึงคุมตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสอบปากคำที่โรงพัก

จากการสอบสวน นายสุวิทย์ ให้การโดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ได้พาครอบครัวและญาติรวม 6 คน ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า ตั้งใจจะมาทำบุญที่วัดถ้ำสหาย บ้านผาสิงห์ ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี แต่วัดปิดเนื่องจากโรคระบาดในพื้นที่ จึงชักชวนกันจะไปเที่ยวภูฝอยลม ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ขณะขับรถผ่านมาถึงที่เกิดเหตุ ด้วยสภาพเป็นเนินสูงและเป็นทางโค้งจึงชะลอรถ เพราะใช้ความเร็วไม่ได้ และเห็นด้านขวามือมีรถกระบะคล้ายรถส่งน้ำแข็งจอดอยู่ไหล่ทาง พอพ้นจากรถกระบะมาเป็นจังหวะที่เด็กวิ่งออกมาจากทางด้านขวา จะข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามพอดี จึงชนเด็กเข้าอย่างจัง และเหยียบเบรกในจังหวะชนพอดี

“ถ้าไม่มีรถกระบะคันนั้นจอดบังสายตาอยู่ คิดว่าผมต้องเห็นเด็กอย่างแน่นอน หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ผมเข้าใจดี ผมก็มีลูกเหมือนกัน พอเกิดเหตุผมก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน อยากขอโทษครอบครัวเด็ก และผมจะรับผิดชอบทุกอย่าง ขอยืนยันว่าผมไม่ได้ดื่มแอลกอฮอลล์ เนื่องจากพรุ่งนี้ผมจะขับรถเดินทางไปทำงานที่ กทม.” นายสุวิทย์ กล่าว

ขณะที่ น.ส.พิมพิไล พันนาดอน อายุ 42 ปี ยายของน้องกัน เปิดเผยว่า ขณะตนพาหลานชายมายืนเลือกซื้อขนมกับพ่อค้ารถเร่ รถกระบะอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามหน้าบ้านของตน หลังจากลูกสาวตนจ่ายเงินเสร็จแล้ว เป็นจังหวะที่ยายทวดถือขวดนมออกมาจากบ้าน และกำลังเดินข้ามถนนไปที่บ้านหลังใหญ่ จู่ๆ น้องกันก็วิ่งไปหายายทวด เพราะอยากกินนมที่ยายทวดชงมาให้ โดยน้องกันวิ่งข้ามถนนไปอย่างรดเร็ว และเป็นจังหวะมีรถปิกอัพวิ่งมาจากทางบ้านผาสิงห์ด้วยความเร็ว ชนล้มและลากไปราว 10 เมตร ส่วนตนพยายามวิ่งตามคว้าตัวน้องกันไว้จนล้มหัวเข่าถลอก ญาติและชาวบ้านพากันมาช่วยกันดึงศีรษะน้องกันออกจากล้อรถ ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

น.ส.กนกพร พันนาดอน อายุ 19 ปี น้าสาวของน้องกัน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตาไปทำบุญที่วัด ได้มีพระอาจารย์ที่วัดบอกว่า ครอบครัวของเราจะมีเคราะห์ใหญ่ โดยที่บ้านตาได้เลี้ยงปลาเอาไว้ พระอาจารย์ จึงบอกให้เอาไปปล่อยให้หมด จากนั้นตาก็ขับรถจะนำปลาไปปล่อย จนเกือบถึงจุดที่จะปล่อย ก็มีรถจยย.ขี่ออกมาตัดหน้าพอดี ตาหักหลบทัน แต่ก็ไม่มีใครเป็นอะไร ตาจึงได้พูดขึ้นมาว่า คนนั้นไม่ตาย อาจมีคนในบ้านต้องตาย กระทั่งมาเกิดเหตุทำให้ต้องเสียหลานไปในวันนี้

ทางด้าน พ.ต.ท.ศิริชัย เปิดเผยว่า หลังจากควบคุมตัวคนขับรถกระบะไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ที่โรงพักพบว่าไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดแต่อย่างใด เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาคนขับ “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต” ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ