ในช่วงนี้ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน เวลาใด ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ร้อนระอุจนแทบทนไม่ไหว และดูเหมือนจะร้อนขึ้นในทุกๆวัน ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญ IPCC ประธานกรรมการบริหาร Futuretales LAB, MQDC ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องนี้ว่า
“ระหว่างวันที่ 2-9 เมษายนนี้ อุณหภูมิสูงสุดมากกว่า 40 ° C ในหลายพื้นที่ และคาดว่าวันที่ 8 เมษายนนี้ จะเป็นวันที่ร้อนที่สุดก่อนสงกรานต์ปีนี้ อุณหภูมิช่วงสงกรานต์จะลดลงมาเล็กน้อย และอาจจะเพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป จะเห็นว่า
สำหรับจังหวัดที่จะมีอุณหภูมิสูงสุดในอนาคตรองลงมาตามลำดับ
- จ.สุโขทัย และจะเป็นจังหวัดที่มีอุณหภูมิสูงสุดในอนาคตด้วย (ร้อนสุดขีดทั้งจังหวัด 49.01 ° C อีก 60 ปีข้างหน้า) จากข้อมูลกรมอุตุฯในอดีต จ.สุโขทัยเคยมีอุณหภูมิสูงที่สุด (44.5 ° C) เป็นลำดับที่ 3 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2559 และเป็นลำดับที่ 6 (44 ° C ) เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2559
พื้นที่จังหวัดที่มีอุณหภูมิสูงสุดในปัจจุบัน คือ
- ภาคกลาง
- จ. พิจิตร (48.74 ° C)
- จ. ชัยนาท (48.48 ° C)
- จ. นครสวรรค์ (48.08 ° C)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- จ.มหาสารคาม (47.85 ° C)
- จ.ขอนแก่น (47.58 ° C)
- จ.ร้อยเอ็ด (47.56 ° C)
- จ.นครราชสีมา(46.19 ° C)
- ในภาคเหนือ
- จ.ลำปาง (47.19 ° C)
- จ. ลำพูน (47.13 ° C)
- ส่วนพื้นที่ กรุงเทพมหานคร
- จะมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 44.90 ° C
ผลกระทบที่จะตามมาคือภัยคุกคามที่ไม่สามารถย้อนเวลากลับได้ คลื่นความร้อน-ภัยแล้ง-ฝนตกหนัก-น้ำท่วม-น้ำทะเลหนุนสูง ทุกภาคส่วนธุรกิจ สังคมเมือง และชนบทจะได้รับผลกระทบมากน้อย ในช่วงเวลาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมโดยไม่ประมาทครับ”
เรียกได้ว่าอุณหภูมิจะยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นในช่วงที่มีอากาศร้อนจัดขอแนะนำว่าให้ดื่มน้ำเยอะๆ สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย และระบายอากาศได้ดี พยายามรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้ปกติ และงดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง