ขู่ฆ่าทั้งบ้าน! สาวผวาแก๊งเงินกู้ ขาดส่งแค่ 3 วันบุกพังบ้าน แฉดอกโหดร้อย 45 ต้องส่งรายวัน ขู่ฆ่าห้ามใครออกจากบ้าน ลูกผวาแค่คนเดินผ่านก็กลัว

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 14 ก.ค.65 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน เดินทางไปยัง อาคารพาณิชย์ในพื้นที่หมู่ 1 ซอยพระเนียดพัฒนา 3 หมู่ 1 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก น.ส.เมษรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี เจ้าของร้านขายส้มตำ ว่าถูกเซลล์ปล่อยเงินกู้ ดอกโหดร้อยละ 45 ต่อเดือน ควงปืนบุกมาพังร้าน ทุบทำลายข้าวของได้รับความเสียหาย

จากการสอบถาม นายบรรเทิงศักดิ์ อายุ 55 ปี พ่อของ น.ส.เมษรา เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาข้างบ้านแล้วเอาขวดมาโยนใส่รถ จยย. ก่อนจะพังข้าวของในบ้านจนพังเสียหาย ตนจะออกไปแจ้งความก็ออกไม่ได้เพราะถูกข่มขู่ไว้ว่าถ้าออกจากบ้านจะยิงทิ้ง ทำให้ไม่มีใครกล้าออกจากบ้าน เพราะตนก็กลัวว่าจะโดนดักยิง ไม่รู้ว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่แถวใหน

ด้าน น.ส.เมษรา กล่าวว่า ครอบครัวตนอยู่ด้วยกัน 5 คน มี พ่อ อายุ 55 ปี แม่ อายุ 56 ปี ลูก อายุ 10 ขวบ และ หลาน อายุ 5 ขวบ ครอบครัวมีฐานะยากจน พ่อประกอบอาชีพเป็นพนักงานขับรถขนส่ง แม่เป็นแม่บ้านไม่ได้ทำงาน เนื่องจากป่วยเป็นโรคประจำตัวหลายโรค ตนและครอบครัวพากันมาเช่าอาคารพาณิชย์แห่งนี้ขายข้าวแกงและอาหารตามสั่งได้ประมาณ 4 เดือน เนื่องจากพ่อเกษียณ ได้เงินก้อนมาประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินก้อนสุดท้ายของครอบครัว พ่อจึงให้นำเงินดังกล่าวมาลงทุนเปิดร้านขายข้าวแกง ซื้ออุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ให้ตนและแม่ช่วยกันขาย เพราะพ่อคิดว่าหากไม่ค้าขายเงินตรงนี้ก็จะหมดไปและทุกคนก็จะลำบาก

แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับ จ.ชลบุรี ตอนนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเหมือนช่วงก่อนโควิด ทำให้ยอดขายแต่ละวันเสมอทุน บางวันก็ขาดทุน หลังจากทุนหมด ตนได้ไปติดต่อกับธนาคารเพื่อขอทำเรื่องกู้สินเชื่อมาลงทุนค้าขาย แต่ไม่มีที่ไหนให้กู้ เนื่องจากธนาคารต้องการข้าราชการมาค้ำประกัน แต่ครอบครัวตนไม่รู้จักใครที่ไหน ทำให้ต้องหันไปหาเงินกู้นอกระบบ โดยตนกู้ 15,000 บาท ได้รับเงินมา 13,500 บาท หักค่าสัญญา 1,500 บาท ต้องส่งวันละ 900 บาท จำนวน 22 วัน เป็นเงิน 19,800 บาท คิดเป็นดอกเบี้ย 45% ต่อเดือน

ตนส่งรายวันๆ ละ 900 บาท มาได้ 9 วัน เป็นเงิน 8,100 บาท แต่มาขาดส่ง 3 วันเนื่องจากฝนตก ทำให้ขายของได้เงินเพียง 200 บาท ตนโทรศัพท์ไปแจ้งให้เซลล์แล้ว แต่เซลล์ไม่ยอม ยืนยันให้ตนต้องไปหากู้ยืมเงินจากคนอื่นมาให้ ตนพยายามไปหาหยิบยืมเพื่อนๆ แต่ทุกคนก็ลำบากกันหมด จึงไม่มีเงินมาจ่าย ทำให้ถูกบุกมาพังร้าน ทุบรถจยย. และอุปกรณ์ทำมาหากิน ได้รับความเสียหาย นำขวดเบียร์และก้อนหินปาเข้ามาภายในบ้าน พร้อมตะโกนขู่จะยิงให้ตายทั้งบ้าน

ทำให้ลูก หลาน และพ่อแม่ ของตนตกใจพากันร้องไห้ ไม่กล้าเปิดร้านขายของ ลูกตนผวาเวลาได้ยินเสียงคนเดินผ่านหน้าบ้าน จะรีบวิ่งไปแอบ หลังเกิดเหตุตนพยายามโทรไปขอผัดผ่อนเพื่อที่จะหาเงินมาจ่ายบางส่วนก่อน แต่เซลล์ไม่ยอม บังคับให้ตนหาส่วนที่ค้างมาจ่ายทั้งหมด หากไม่มีก็จะไม่รับประกันความปลอดภัย ตนกลัวว่าครอบครัวจะถูกฆ่า จึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือมายังเพจสายไหมต้องรอด ดังกล่าว

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า ทันทีที่ได้รับแจ้ง ตนจึงเดินทางมาสถานที่เกิดเหตุทันที พร้อมกับประสานไปยัง พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความและดำเนินคดีกับแก๊งปล่อยเงินกู้โหดรายนี้ให้ถึงที่สุด ไม่น่ามาทำอะไรขนาดนี้ เป็นเหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน ต้องฝากให้ผู้กำกับ สภ.เมืองชลบุรี จัดการให้เด็ดขาด เอาไว้ไม่ได้เป็นภัยกับสังคม

ขณะที่ พ.ต.อ.นิทัศน์ เปิดเผยว่า จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียหายนั้นกู้เงินทางโซเชียลหรือทางเฟซบุ๊กที่มีผู้ปล่อยกู้ หลังจากนั้นได้ติดต่อและผู้ให้กู้ได้ขับรถเก๋งเอาเงินมาให้ถึงบ้าน ซึ่งจะต้องสอบสวนว่าผู้ให้กู้นั้นมีพื้นที่อยู่ในเขตเมืองชลบุรีหรือไม่ หรืออยู่ต่างจังหวัดเพื่อจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป