กู้ภัยเล่านาทีหนุ่มเมากร่าง กระทืบคนเจ็บ-ด่ากู้ภัย อ้างรู้จักตำรวจใหญ่

Home » กู้ภัยเล่านาทีหนุ่มเมากร่าง กระทืบคนเจ็บ-ด่ากู้ภัย อ้างรู้จักตำรวจใหญ่



กู้ภัยเล่านาทีหนุ่มเมากร่าง กระทืบคนเจ็บ-ด่ากู้ภัย อ้างรู้จักตำรวจใหญ่ ผลออกมาพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 3 พ.ย.65 น.ส.นวพร นักฆ้อง อายุ 24 ปี อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ประจำจุดอยู่บริเวณราษฏร์บูรณะ เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ภายหลังเข้าปฏิบัติหน้าที่ มีเหตุรถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ แล้วมีผู้บาดเจ็บ โดยคนก่อเหตุนั้นมีอาการมึนเมา ทำร้ายร่างกายคนเจ็บ ด่ากราดเจ้าหน้าที่และพลเมืองดี พร้อมอ้างตัวรู้จักกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ด้วย

น.ส.นวพร กล่าวว่า เมื่อคืนตนประจำจุดอยู่บริเวณราษฎร์บูรณะ และรับแจ้งเหตุว่ามีรถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ จึงรีบเข้าไปปฎิบัติหน้าที่ เมื่อไปถึงก็เห็นคนก่อเหตุ อายุประมาณ 30 กว่าปี มีอาการคล้ายกับคนมึนเมาและได้กลิ่นแอลกอฮอล์ชัดเจน เดินเข้ามาพูดจาไม่ดีใส่เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยที่ไปปฎิบัติหน้าที่ พร้อมกับบอกว่า จะให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย คุยกับคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตนจึงโทรศัพท์มาคุย พร้อมสังเกตเห็นว่าผู้ก่อเหตุเมมเบอร์ว่า “จ่า” แต่ตนไม่ได้สนใจอะไรก็รับสายตามปกติ ปรากฏว่าปลายสายถามว่า “นี่คือใคร?” และทำเหมือนไม่รู้จักเจ้าของเบอร์โทร ตนจึงยื่นโทรศัพท์คืนให้ ก่อนที่จะรีบไปปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บที่นั่งอยู่ริมถนนแทน

“ผู้บาดเจ็บหัวแตก เลือดออกจำนวนหนึ่ง แล้วหน้าผากทั้งสองฝั่งโน เราก็เลยจะพยายามทำแผลให้ แต่จังหวะนั้น อยู่ๆ คนก่อเหตุก็โวยวายและจะเดินข้ามตัวเรา เพื่อมาทำร้ายผู้บาดเจ็บ ทำให้พลเมืองดี รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องรีบเข้ามาห้าม จากนั้นมีพลเมืองดีคนหนึ่งถูกคนก่อเหตุต่อยด้วย เราจึงถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทราบว่าก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึงที่เกิดเหตุ คนก่อเหตุได้เข้าไปกระทืบผู้บาดเจ็บด้วย“

โดยผู้บาดเจ็บไม่ได้ไปพูดท้าทายหรือมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุเลย เนื่องจากผู้บาดเจ็บมีอาการเจ็บศีรษะและเบลอมาก เขาพยายามประคองสติของตัวเองไม่ให้หลับ จึงเชื่อว่าเขาไม่น่าจะมีสติในการไปพูดกับผู้ก่อเหตุแน่นอน

ทั้งนี้ เรื่องราวจบลงเมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุและเชิญให้ไปเป่าแอลกอฮอล์ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างก็แยกย้าย ตนก็ไปส่งผู้บาดเจ็บเพื่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไป

อย่างไรก็ตามอยากฝากถึง คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าหากอยากจะดื่มก็ไม่ควรขับรถ และควรจะรับผิดชอบต่อสังคมด้วย คนอื่นจะได้ไม่ต้องได้รับความเดือดร้อน

ขณะที่มีรายงานว่า หลังจากตำรวจสายตรวจควบคุมตัวชายคนขับรถเก๋งไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ผลออกมาพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอผลตรวจร่างกายของผู้บาดเจ็บ และเตรียมแจ้งข้อหากับคนขับรถเก๋งต่อไป เบื้องต้น 3 ข้อหา คือ เมาแล้วขับ , ขับรถโดยประมาท , และทำร้ายร่างกายผู้อื่น

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ