กู้ภัยฯ ยันไม่เคยแตะทรัพย์สิน หลังตาร้องทอง 50 บาทหาย พ้อสุดท้อใจ ทั้งที่ทำความดี

Home » กู้ภัยฯ ยันไม่เคยแตะทรัพย์สิน หลังตาร้องทอง 50 บาทหาย พ้อสุดท้อใจ ทั้งที่ทำความดี
กู้ภัยฯ ยันไม่เคยแตะทรัพย์สิน หลังตาร้องทอง 50 บาทหาย พ้อสุดท้อใจ ทั้งที่ทำความดี

กรณีคุณตาเกียรติ วัย 90 ปี เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน. บางเขน ภายหลังพบว่าทองคำรูปพรรณ น้ำหนักรวม 50 บาทหายไป หลังเรียกกู้ภัยจากมูลนิธิชื่อดังแห่งหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือ จัดการศพของน้องสาวและช่วยเหลือพี่สาวไปส่งโรงพยาบาล โดยระหว่างจัดการศพ ต้องใช้บัตรประชาชนซึ่งคุณตา ไม่รู้ว่าบัตรประชาชนของน้องสาวอยู่ที่ไหน และสภาพบ้านค่อนข้างรก เพราะไม่มีคนดูแล ทำให้ต้องขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยช่วยกันรื้อข้าวของในบ้านเพื่อค้นหา จนกระทั่งเจอเอกสารของน้องสาว และจัดการศพได้เป็นที่เรียบร้อย

ต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลฯ ซึ่งเป็นชุดที่เข้าไปหาบัตรประชาชนภายในบ้านพักของ คุณตาเกียรติ อายุ 90 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ยืนยันข้อเท็จจริงว่าไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินมีค่าของคุณตาเลย
คุณเอ (นามสมมติ) กล่าวว่า วันนั้นหลังจากได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้าน ก็ประสานทีมลงพื้นที่ไปให้การช่วยเหลือ พบมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอายุ 92 ปีเสียชีวิตอยู่บนเตียง ลักษณะสภาพเริ่มมีหนอนขึ้นบริเวณที่ศีรษะ ส่วนบริเวณพื้นพบหญิงอีกรายอายุ 85 ปี นอนป่วยจมกองอุจจาระปัสสาวะอยู่ จึงพยายามให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล และจัดการศพหญิงสูงอายุที่นอนเสียชีวิตอยู่

โดยวันนั้นได้มีการถามหาบัตรประชาชน และเอกสารเพื่อที่จะนำไปติดต่อกับหน่วยราชการเพื่อแจ้งการเสียชีวิต ระหว่างที่ถามหาบัตรประชาชนและเคลียร์พื้นที่เต็มไปด้วยอุจจาระปัสสาวะ ยังพบถุงขยะมีเงินอยู่ในนั้นจำนวน 40,000 บาททางตัวเองและทีมก็ยังนำไปคืนคุณตา คุณตายังตกใจถามกลับว่า “มีเงินอยู่ในถุงด้วยหรอ” ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องจริงไม่มีใครหยิบหรือขโมยของมีค่าไปอย่างแน่นอน รวมถึงสภาพห้องวันที่เข้าไปรกมาก ข้าวของกระจัดกระจาย

เรื่องทองคำที่หายไป ตัวเองก็ไม่ไม่แน่ใจว่าด้วยอายุของคุณตาอาจจะทำให้หลงลืมหรือมีภาพจำในอดีตว่ามีทองคำอยู่ในกล่องเหล็ก แต่วันนั้นสภาพบ้านที่เข้าไปค่อนข้างรกมาก และไม่มีใครไปรื้อค้นข้าวของมีค่ามีแต่ช่วยกันจัดการเรื่องของศพ ตอนนี้ยอมรับว่าพอเจอเหตุการณ์มาถูกกล่าวหาแบบนี้ก็รู้สึกท้อใจที่ทำความดี หลังจากนี้ จะเข้าไปช่วยเหลือใครก็คงจะต้องตรวจสอบให้ดีเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกยอมรับว่าที่ก่อนหน้านี้มีข่าวนำเสนอไปทำให้เกิดความเสื่อมเสีย
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ยอมรับว่าเสียความรู้สึกบ้างที่ตนเป็นคนเข้าไปช่วยเหลือแต่กลับถูกตั้งข้อสงสัย หลังจากนี้ยืนยันว่าจะดำเนินการช่วยเหลือคนต่อ แต่จะทำอย่างรัดกุมมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ