การเก็บสเต็มเซลล์ดียังไง น่าเชื่อถือมากแค่ไหนในปัจจุบัน ข้อควรระวัง และ ใครบ้างที่ควรเก็บ

Home » การเก็บสเต็มเซลล์ดียังไง น่าเชื่อถือมากแค่ไหนในปัจจุบัน ข้อควรระวัง และ ใครบ้างที่ควรเก็บ

ในปัจจุบันมีการใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในผู้ป่วยหลายกลุ่มโรค ในทุก ๆ ช่วงอายุ โดยเน้นที่การฟื้นฟูอวัยวะหรือเซลล์ต่าง ๆ ที่เสียหายไป ยกตัวอย่างเช่น ฉีดในผู้ป่วยโรคเบาหวานเพื่อช่วยลดอัตราการใช้ยาอินซูลิน ฉีดเข้าข้อเพื่อลดภาวะข้อเข่าเสื่อมและข้อสะโพกเสื่อม ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น SLE หรือโรคพุ่มพวง ใช้ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคไตจากเบาหวาน โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และใช้รักษาอาการบาดเจ็บของอวัยวะ

ข้อดีของการเก็บสเต็มเซลล์คือสามารถใช้รักษาโรคต่าง ๆ ได้ โดยแบ่งเป็นกลุ่ม ดังนี้

สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ หรือ Cord Blood; HSCs ใช้รักษาโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเลือดและอื่น ๆ เช่น กลุ่มโรคมะเร็งเม็ดเลือดทุกชนิด กลุ่มโรคไขกระดูกผิดปกติ โรคจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือดแดง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคโลหิตจาง และโรคธาลัสซีเมีย

สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ หรือ Cord Tissue; MSCs ใช้รักษากลุ่มโรคที่เกิดจากความเสื่อม เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคเสื่อมสมรรถภาพ โรคกระดูกและข้อ อีกทั้งยังสามารถใช้ในการเสริมความงามและลดริ้วรอย โดยข้อดีของสเต็มเซลล์ชนิดนี้ คือสามารถนำมาใช้ได้กับทุกคนในครอบครัว

สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน หรือ Adipose tissue; MSCs ใช้รักษาโรคที่เกิดจากความเสื่อม เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคกระดูกและข้อ และการเสริมความงาม ลดริ้วรอย โดยข้อดีคือสามารถเก็บสเต็มเซลล์ชนิดนี้เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไม่สามารถนำไปใช้รักษากับคนอื่นนอกจากตนเองได้

ข้อควรระวังในการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ เช่น ภาวะเซลล์ใหม่ต้านร่างกาย (GvHD) มักเกิดจากการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากผู้อื่น (Allogeneic Transplants) เป็นการทำลายเซลล์ในร่างกายของผู้ป่วยโดยเซลล์ที่ปลูกถ่าย และปริมาณเม็ดเลือดลดจำนวนลง ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคโลหิตจาง ภาวะเลือดออกมาก รอยจ้ำเขียว และเพิ่มโอกาสเกิดการติดเชื้อสูงขึ้น

ที่ MEDEZE Group ให้ความสำคัญในการฝากเก็บสเต็มเซลล์เพื่อการบริการแบบระยะยาว สำหรับการจัดเก็บแช่แข็งเซลล์ต้นกำเนิด แตกต่างจากธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดแห่งอื่น เพราะที่ MEDEZE Group จะทำการคัดแยกสเต็มเซลล์เพื่อตรวจสอบทั้งปริมาณและคุณภาพของสเต็มเซลล์ทันทีที่ฝากเก็บ และยังรับประกันคุณภาพของสเต็มเซลล์เป็นเวลานานถึง 30 ปี โดยห้องปฏิบัติการของ MEDEZE นั้นได้รับมาตรฐานความสะอาดสำหรับการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ นำทีมโดยบุคลากรที่มีประสบการณ์ ก่อตั้งมาจากทีมงานคุณหมอวีรพลและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสเต็มเซลล์และการจัดเก็บเนื้อเยื่อที่มีประสบการณ์ในด้านนี้มากกว่า 11 ปี ซึ่งพร้อมให้คำแนะนำตลอดเวลาทั้งเรื่องขั้นตอนการจัดเก็บและประโยชน์ของการนำไปใช้จริง

สำหรับการเก็บสเต็มเซลล์ สามารถทำได้ในทุกช่วงอายุ ยิ่งเก็บสเต็มเซลล์ได้เร็วตอนอายุน้อย ก็จะเป็นการหยุดอายุของเซลล์ไว้เพื่อใช้ในอนาคต แต่ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ MEDEZE ทำให้คนที่พลาดโอกาสในการเก็บสเต็มเซลล์ส่วนบุคคลตั้งแต่วันแรกเกิดซึ่งเป็นสเต็มเซลล์ที่อ่อนวัยที่สุด ยังมีโอกาสจัดเก็บสเต็มเซลล์ได้ทันทีจากไขมัน เราทุกคนจึงไม่ควรพลาดโอกาสสำคัญในครั้งนี้

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.medezegroup.com/th/news/stem-cell-banking-medeze

References

  1. Mayani H. Biological differences between neonatal and adult human hematopoietic stem/progenitor cells. Stem cells and development. 2010 Mar 1;19(3):285-98.
  2. Hayani A, Lampeter E, Viswanatha D, Morgan D, Salvi SN. First report of autologous cord blood transplantation in the treatment of a child with leukemia. Pediatrics. 2007 Jan 1;119(1):e296-300.
  3. Lee, J. S., Hong, J. M., Moon, G. J., Lee, P. H., Ahn, Y. H., & Bang, O. Y. (2010). A long‐term follow‐up study of intravenous autologous mesenchymal stem cell transplantation in patients with ischemic stroke. Stem cells28(6), 1099-1106.

[Advertorial]

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ