กฟน.แจงเหตุไฟไหม้สำเพ็ง เร่งสอบปม ควันขึ้นหม้อแปลง-ไฟไหม้สายสื่อสาร พร้อมเยียวยา

Home » กฟน.แจงเหตุไฟไหม้สำเพ็ง เร่งสอบปม ควันขึ้นหม้อแปลง-ไฟไหม้สายสื่อสาร พร้อมเยียวยา



กฟน.แจงเหตุไฟไหม้สำเพ็ง เร่งสอบปม ควันขึ้นหม้อแปลง-ไฟไหม้สายสื่อสาร พร้อมเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบ ที่ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต และทรัพย์สินเสียหาย

จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้นถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. และลุกลามอาคารข้างเคียงหลายคูหา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา ขณะที่ชาวบ้านและผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่าเกิดควันที่หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ก่อนไฟไหม้ที่สายไฟ และลุมลามไปที่อาคารพาณิชย์และรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างถนน เบื้องต้น น.ส.อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผอ.เขตสัมพันธวงศ์ คาดว่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว วันที่ 27 มิ.ย.2565 เพจ การไฟฟ้านครหลวง MEA ได้โพสต์ข้อความสรุปชี้แจงสาเหตุเพลิงไหม้บริเวณสำเพ็ง ตรวจเข้มระบบไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย พร้อมช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยระบุว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2565 เวลาประมาณ 11.25 น. การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ได้รับแจ้งเหตุจากประชาชนว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณสำเพ็ง ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ จึงส่งรถแก้ไฟฟ้าขัดข้องตรวจสอบพบว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณหม้อแปลงไฟฟ้า และอาคารพาณิชย์ รถยนต์ ได้รับความเสียหาย พนักงานช่างสายอากาศได้ดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้า และให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการฉีดน้ำในสถานที่เกิดเหตุ

และได้ดำเนินการจ่ายไฟกลับคืนเมื่อเวลา 16.00 น. รวมถึงดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างในพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชน สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ จากข้อมูลที่สื่อมวลชนรวมถึงสื่อออนไลน์เผยแพร่ และคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ แจ้งว่ามีกลุ่มควันที่หม้อแปลงไฟฟ้าเกิดขึ้น ถัดมาเกิดเปลวไฟที่สายสื่อสารใต้หม้อแปลงไฟฟ้า และลุกลามไปยังอาคาร 3 คูหา รถยนต์ 4 คัน รถจยย. 3 คัน และมีผู้เสียชีวิต 2 คน

ผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากหม้อแปลงสถานี SD12526 หรือสายสื่อสารที่อยู่บริเวณสถานีหม้อแปลงดังกล่าว ซึ่งข้อเท็จจริงต้องรอกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติสรุปสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้

MEA มีความห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบ จึงพิจารณาช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วนตามมาตรการฉุกเฉิน โดยกรณีมีผู้เสียชีวิต MEA จะมอบเงินช่วยเหลือแก่ทายาทโดยธรรม ตามกฎหมายของผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ MEA จะมอบเงินช่วยเหลือและนำสิ่งของไปเยี่ยม กรณีมีทรัพย์สินของประชาชนเสียหาย MEA จะมอบเงินช่วยเหลือให้เป็นการเบื้องต้นเช่นเดียวกัน สำหรับผู้เสียชีวิต อยู่ระหว่างการประสานงานกับสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรมต่อไป

ในส่วนมาตรการแก้ไขและป้องกัน MEA จะทบทวนแผนการบำรุง ดูแลรักษา โดยเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบให้มากขึ้น ดำเนินการเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้าก่อนครบอายุการใช้งาน เร่งนำนวัตกรรมการแจ้งเตือนเหตุสำหรับหม้อแปลงไฟฟ้า มาใช้เพิ่มเติมในระบบที่มีอยู่ นอกจากนี้จะเร่งประชุมหารือหาแนวทางร่วมกันในการตรวจสอบดูแลระบบไฟฟ้ารวมถึงจุดเสี่ยงต่างๆ พร้อมดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

MEA มีความพร้อมดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ให้มีความเพียงพอ มั่นคง ปลอดภัย และพร้อมให้บริการแก้ไขไฟฟ้าขัดข้อง ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter : @mea_news, Instagram : meafanclub และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ