แม่ร่ำไห้แทบขาดใจ ลูกวัย 1 ขวบ ตกบ่อปลาคาร์ฟ เสียชีวิตในโรงงานแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง หลังปล่อยให้เล่นของเล่นที่เพิ่งซื้อให้เมื่อวานเพียงลำพัง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.พ.2565 พ.ต.ต.นาวิน สนิทผล สารวัตร(สอบสวน) สน.ดอนเมือง รับแจ้งเหตุเด็กพลัดตกบ่อปลาคาร์ฟ ภายในโรงงานแห่งหนึ่ง แขวงและเขตดอนเมือง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงดอนเมือง หน่วยกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในโรงงานเลขที่ 53 ซึ่งประกอบกิจการทำกระเป๋า พบคนงานกำลังช่วยกันปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต เด็กชายวัย 1 ขวบ 11 เดือน สัญชาติเมียนมา เจ้าหน้าที่จึงเร่งให้การช่วยต่อโดยใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจใช้เวลากว่า 30 นาทีไม่เป็นผล เด็กไม่มีชีพจร ทำให้ทั้งพ่อและแม่เด็กรวมถึงคนงานชาวเมียนมา ร้องไห้ระงมเป็นที่น่าสลดใจ
จากการสอบถามคนงาน ให้การว่า ก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 09.00 น. น.ส.นาน อายุ 33 ปี สัญชาติเมียนมา ได้นำผู้ตายมานั่งป้อนข้าวหน้าบ่อปลาคาร์ฟ ยาว 7 เมตร กว้าง 2.5 เมตร ลึก 65 เซนติเมตร หลังจากป้อนข้าวเสร็จ ทางแม่ก็ได้กลับไปทำงานเย็บกระเป๋าในโรงงานซึ่งห่างกันประมาณ 10 เมตร กระทั่ง เจ้าของโรงงานมาพบเด็กนอนหงายอยู่ในบ่อปลา จึงช่วยกันนำขึ้นจากบ่อและแจ้งเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือ
สอบถามทราบต่อว่า ปกติแล้วเด็กจะมีพี่เลี้ยงดูแลตลอด โดยจัดพื้นที่ให้อยู่อีกฝั่งของตัวโรงงาน และมีรั้วกั้นไม่ให้เด็กข้ามมาตรงบ่อปลาได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น แต่วันนี้แม่เด็กได้พาผู้ตาย มานั่งป้อนข้าวฝั่งทางเข้าที่มีบ่อปลา หลังป้อนเสร็จตัวของแม่ก็ได้กลับเข้าไปทำงานแล้วปล่อยให้ผู้ตายเล่นรถม้าที่เพิ่งซื้อมาให้เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยลำพัง ปกติแล้วจะไม่ค่อยให้เด็กมาเล่นแถวนี้ เพราะเป็นทางขึ้น-ลงของ และมีรถวิ่งเข้า-ออกตลอดทั้งวัน ตอนเกิดเหตุก็ไม่มีใครเห็นว่าน้องตกไปในบ่อตั้งแต่เมื่อไหร่
เบื้องต้นคาดว่า หลังจากแม่เด็กได้ป้อนข้าวเสร็จก็ปล่อยเด็กเล่นอยู่คนเดียว ซึ่งเด็กอาจจะพยายามที่จะไปดูปลา ก่อนจะพลัดตกลงไป โดยส่งศพไปตรวจพิสูจน์การเสียชีวิตที่นิติเวชโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตและส่งมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป