กกต.รับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อวันแรกคึก กองเชียร์เต็มกทม.2 ลุ้นพรรคจับได้เบอร์สวย ชูวิทย์ บุกชิงซีน มอบไม้กวาดหัวหน้าพรรค กวาดการเมืองสกปรก 2 ป.งดเผชิญหน้า
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2566 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง เป็นวันแรกที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดรับสมัครเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่กกต.ประกาศจะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 4-7 เม.ย.นี้
โดยบรรยากาศการรับสมัครเป็นไปอย่างคึกคัก ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง มีสมาชิกและกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคการเมืองต่างเดินทางมาพร้อมดอกไม้ ป้ายหาเสียง เพื่อให้กำลังใจพรรคของตนด้วยหวังว่าหัวหน้าพรรคจะจับสลากได้หมายเลขประจำพรรคที่เป็นเลขมงคลหรือเลขสวยที่จะทำให้ง่ายต่อการหาเสียง
กกต.จัดสถานที่ให้กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคการเมืองอยู่บริเวณลานช้างด้านหลังอาคารไอราวัตพัฒนาที่เป็นสถานที่รับสมัคร พร้อมกับจัดให้หัวหน้าและแกนนำพรรคการเมืองที่เดินทางมาถึงเข้าทางประตู 5 ของอาคารฯ ซึ่งจะได้สักการะพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำลานช้าง และทักทาย รับกำลังใจจากกลุ่มผู้สนับสนุนก่อนเข้าตัวอาคาร โดยกกต.จำกัดจำนวนตัวแทนพรรคการเมืองที่จะเข้าห้องรับสมัครพรรคละ 5คน
บริเวณโดยรอบอาคารมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำเป็นจุดๆ เพื่อรักษาความเรียบร้อย และทุกประตูทางเข้าออกของอาคารมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชนคอยดูรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งบรรยากาศเริ่มคึกคักมากขึ้นเมื่อ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ มาพร้อมไม้กวาด อ้างว่าต้องการมอบให้กับหัวหน้าพรรคการเมืองเนื่องจาก การเมืองสกปรก มีพรรคการเมืองที่ชูนโยบายกัญชามอมเมาประชาชน และซื้อขายตัวส.ส.ถึงเขตละ 60 ล้าน จำนวน85คนหากได้รับเลือกตั้งเข้าไปจะทำให้บ้านเมืองล่มจม นายชูวิทย์ยังได้เดินพบปะพูดคุยหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคต่างๆ สอบถามถึงแนวทางในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองหนึ่ง
ส่วนในห้องรับสมัครมีการจัดพื้นที่ แบ่งเป็น 4 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 รับลงเวลา จุดที่ 2 ตรวจรับเอกสารและหลักฐาน จุดที่ 3 ชำระเงินค่าสมัคร และ จุดที่ 4 ออกใบรับสมัคร ขณะที่บริเวณนอกห้องรับสมัครมีการจัดพื้นที่ไว้ให้ผู้แทนพรรคการเมืองจัดเตรียมเอกสาร และมีฝ่ายกฎหมายให้คำปรึกษา และเป็นพื้นที่ทำงานของสื่อมวลชน โดยมีการจัดเตรียมโทรทัศน์วงจรปิดถ่ายทอดการสมัครและจับสลากหมายเลขประจำพรรคจากห้องรับสมัครออกมาให้สื่อมวลชนได้รับทราบ เนื่องจากมีการจำกัดจำนวนสื่อเข้าห้องรับสมัครเพียงสำนักละ 1 คนเท่านั้น
ทั้งนี้ ในขั้นตอนการรับสมัครกรณีมีพรรคการเมืองยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพร้อมกันก่อนเวลา 08.30 น. เลขาธิการ กกต. จะมีการประชุม หัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ได้รับมอบหมายฯ เพื่อตกลงกำหนดลำดับการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง หากไม่สามารถตกลงกันได้ ประธานกกต.หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะดำเนินการจับสลาก โดยการจับสลากจะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ
1.ประธาน กกต. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้จับสลาก ชื่อพรรคการเมืองที่ถูกจับมาเป็นลำดับแรกจะถือว่าพรรคการเมืองนั้นเป็นผู้มีสิทธิจับสลากลำดับในการยื่นใบสมัครก่อน
2. การจับสลากครั้งที่สอง หัวหน้าพรรคการเมือง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะทำการจับสลากหมายเลขลำดับการยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ซึ่งได้หมายเลขใดก็จะถือว่าเป็นหมายเลขประจำพรรคที่ใช้ในการหาเสียง แต่ทั้งนี้หากในขั้นตอนการตรวจรับเอกสารและหลักฐาน พบว่าพรรคการเมืองใดมีปัญหาเกี่ยวกับเอกสารการสมัคร อาจจะต้องมีการคืนใบสมัคร ซึ่งจะส่งผลต่ออันดับการยื่นใบสมัครจากการจับสลาก ที่อาจจะขยับจากอันดับเดิมได้
จากนั้นเหล่าหัวหน้าพรรคเริ่มทยอยมายังจุดลงทะเบียนรับสมัคร เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
ต่อมาเวลา 08.05 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาถึงพร้อมเวลาเดียวกันที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ มาถึง โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้เดินเลี่ยงที่จะเจอพล.อ.ประวิตร