เพโลซี เยือนญี่ปุ่น ปิดทริปเอเชีย – ไต้หวันซัดจีน “เพื่อนบ้านชั่วร้าย” ซ้อมรบ

วันที่ 5 ส.ค. เอเอฟพี รายงานความคืบหน้าภารกิจการเยือนเอเชียของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาว่า นางเพโลซีเดินทางไปญี่ปุ่น ประเทศสุดท้ายในภารกิจดังกล่าว เพื่อพบปะนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ หารือกับนายฮิโรยูกิ โฮโซดะ ประธานสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่น และมีกำหนดการพบปะสมาชิกกองกำลังสหรัฐในญี่ปุ่น นับเป็นการเยือนญี่ปุ่นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2558 หลังเพิ่งเดินทางไปเกาหลีใต้และเยือนพรมแดนติดกับเกาหลีเหนือเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ส.ค. และไปไต้หวันเมื่อวันพุธที่ 3 ส.ค. ทำให้จีนไม่พอใจและเปิดฉากการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมารอบไต้หวัน

นางเพโลซีกล่าวระหว่างการเยือนญี่ปุ่นว่า สหรัฐจะไม่ยอมให้จีนโดดเดี่ยวไต้หวัน “พวกเขาอาจพยายามกีดกันไต้หวันจากการเยือนหรือเข้าร่วมในที่อื่นๆ แต่จะไม่โดดเดี่ยวไต้หวันโดยการกีดกันพวกเราในการเดินทางไปที่นั่น เราจะไม่ยอมให้พวกเขาโดดเดี่ยวไต้หวัน” นางเพโลซีกล่าว โดยเสริมว่า การเดินทางของตนจะไม่เปลี่ยนแปลงสถานะปัจจุบันในภูมิภาคดังกล่าว

ขณะที่นายกรัฐมนตรีคิชิดะประณามจีนที่ยิงขีปนาวุธนำวิถี 5 ลูกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น โดยในจำนวนนี้ขีปนาวุธ 4 ลูกลอยข้ามผ่านเกาะหลักไต้หวัน ในการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงทั้งทางอากาศและทางทะเลรอบไต้หวันของกองทัพจีนเป็นวันที่สอง โดยกล่าวว่าการยิงขีปนาวุธของจีนเป็นปัญหาร้ายแรงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของพลเรือน และเรียกร้องให้จีนยกเลิกการซ้อมรบทันที

วันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมไต้หวันอ้างว่า ฝูงบินรบและกองเรือรบของจีนข้ามเส้นแบ่งเขตแดนในช่องแคบไต้หวันเข้ามา เมื่อ 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ถือเป็นการกระทำที่ยั่วยุอย่างยิ่ง ขณะที่นายซู เจิน-ชาง นายกรัฐมนตรีไต้หวัน เรียกร้องให้ชาติพันธมิตรผลักดันลดระดับความรุนแรง

“ไม่คิดว่าเพื่อนบ้านชั่วร้ายที่อยู่ข้างๆ จะแสดงอำนาจหน้าประตูบ้านเราและก่ออันตรายตามอำเภอใจทางน้ำที่พลุกพล่านที่สุดในโลกด้วยการซ้อมรบ เราขอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ในโลกที่ตระหนักถึงสันติภาพ เสรีภาพและประชาธิปไตย ทำงานร่วมกัน” นายซู เจิน-ชาง กล่าว

กองทัพจีนระบุว่าการซ้อมรบมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธแบบดั้งเดิมลงสู่น่านน้ำทางตะวันออกของไต้หวัน และว่าการซ้อมรบจะดำเนินต่อไปจนถึงเที่ยงวันที่อาทิตย์ 7 ส.ค.

ซินหัวและซีซีทีวี สื่อทางการจีน รายงานว่า กองทัพจีนส่งเครื่องบินรบมากกว่า 100 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิด ตลอดจนเรือพิฆาตและเรือฟรีเกตมากกว่า 10 ลำ และขีปนาวุธจีนบางลูกลอยข้ามผ่านไต้หวันโดยตรงด้วย