ปรากฏการณ์ “น้องมิลลิ โคเชลลา” สะท้อนถึง “ทวิลักษณะ” ภายในสังคมไทยเด่นชัด
เป็นความเด่นชัดเมื่อสัมผัสได้ในความยินดี ไม่ว่าจะมาจากพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย เมื่อเห็นความสำเร็จของน้อง
และสัมผัสได้ในความหงุดหงิดจากบางเสี้ยว บางส่วน
นั่นก็คือ ความกังขาว่า “น้องมิลลิ” เข้าไปยืนผงาดอยู่บนเวทีได้อย่างไร นั่นก็คือ ความสงสัยในบทบาทและการผลักดันจากนักการเมืองชื่อย่อ “ธ.”
นี่ย่อมเดินรอยเดียวกับบทสรุปจาก “อดีต” รองหัวหน้าพรรคหนึ่ง
ความกังขาต่อปรากฏการณ์ “น้องมิลลิ โคเชลลา” ส่อเค้าลางแห่งความขัดแย้งเด่นชัด
มิได้เป็นความขัดแย้งจากความชื่นชมยินดีอันมาจาก น.ส.จุรีพร สินธุไพร มิได้เป็นความขัดแย้งจากความชื่นชมยินดีอันมาจาก นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร
หากแต่เป็นอาการขัดกันเองภายในของ “รัฐบาล”
นั่นก็คือ การออกมาระบุถึง “ซอฟต์แวร์” และ “ซอฟต์ เพาเวอร์” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และการชื่นชมยินดีกับความสำเร็จของ “น้องมิลลิ”
จึงก่อสภาพ “หลงทิศ” ผิดไปจาก “หนทางไทย” เด่นชัด
เหตุปัจจัยอันใดทำให้เกิดการร้องเพลงผิดคีย์ภายในของรัฐบาลได้ถึงระดับนี้
คำตอบแรกก็ต้องยอมรับว่า ความสำเร็จของ “น้องมิลลิ” ส่งผลสะเทือนเป็นอย่างสูงในทาง ความคิดและในทางการเมืองในประเทศ
เพียงเห็นการติดอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ก็ เด่นชัดอย่างยิ่ง
คำตอบต่อมาก็คือ ผลสะเทือนนี้มีรูปธรรมในเชิงเปรียบเทียบโดยเฉพาะการเคลื่อนไหวเพื่อโปรโมตสถานะแห่ง “ข้าวเหนียวมะม่วง” งบประมาณ 7 ล้านบาท
เพียง “น้องมิลลิ” เดินกิน “บนเวที” ก็เรียบร้อย
ปมเงื่อนอันสร้างสภาวะพะอืดพะอมอย่างยิ่ง คือ ปมเงื่อนจาก “คดีความ” ที่เคยมี
ในเดือนกรกฎาคม 2563 มีความหงุดหงิดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีก็แสดงบทบาทด้วยการแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง
เป้าหมายคือ เล่นงานตรงไปยัง “น้องมิลลิ” ของชาวไทย