ฟอร์บส์แฉเอง “ติ๊กต็อก” สอดแนมนักข่าว-ตอกย้ำครหาล้วงข้อมูลผู้ใช้งาน
เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส์ รายงานข้อมูลการตรวจสอบเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า บริษัท ไบท์แดนซ์ ผู้พัฒนา “ติ๊กต็อก” แอพพลิเคชั่นแชร์คลิปวิดีโอสั้นยอดนิยมของจีน ยืนยันว่าใช้แอพฯ ดังกล่าวตรวจสอบตำแหน่งของนักข่าวหลายคนของฟอร์บส์ผ่านที่อยู่ไอพีแอดเดรส (IP Address) และข้อมูลผู้ใช้อย่างไม่เหมาะสมเพื่อพยายามระบุว่าพิกัดว่าอยู่ในสถานที่เดียวกันหรือไม่ หลังจากการตรวจสอบไบท์แดนซ์ได้ปลดนายคริส เลพิทัค หัวหน้าผู้ตรวจสอบภายในของติ๊กต็อก ออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ยังปลดพนักงานอีกสองคนในสหรัฐอเมริกาและจีนด้วย
นายเอริช แอนเดอสัน ที่ปรึกษาทั่วไปของติ๊กต๊อก กล่าวว่า “เป็นแนวปฏิบัติมาตรฐานสำหรับบริษัทต่างๆ ที่จะมีกลุ่มตรวจสอบภายในที่ได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบการละเมิดจรรยาบรรณ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้พนักงานของเราใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ติ๊กต็อก”
ขณะที่ นายแรนเดล เลน หัวหน้าเจ้าหน้าที่เนื้อหาของฟอร์บส์ กล่าวว่า “นี่เป็นการโจมตีโดยตรงต่อแนวคิดของสื่อเสรีและบทบาทที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตย เรารอการตอบกลับโดยตรงจากทางไบท์แดนซ์ เนื่องจากสิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทำกับข้อมูลที่รวบรวมจากผู้ใช้งานแอพฯ นี้”
ก่อนหน้านี้การสืบสวนที่รู้จักกันภายใต้ชื่อ “โปรเจ็กต์ราเวน” (Project Raven) เริ่มขึ้นช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ภายหลังบัซฟีดนิวส์เปิดเผยว่าพนักงานของไบท์แดนซ์ในจีนเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานติ๊กต็อกในสหรัฐ โดยอ้างอิงจากบันทึกเสียงการประชุมภายในของบริษัทมากกว่า 80 ชั่วโมง ส่วนนักข่าว 3 คนของฟอร์บส์ที่ถูกติดตามนั้นได้แก่ น.ส.เอมิลี่ เบกเกอร์-ไวท์ น.ส.แคทเธอรีน ชวอป และนายริชาร์ด นิเอวา โดยทั้งหมดเคยทำงานให้กับบัซฟีดจนถึงช่วงต้นฤดูร้อนของปีนี้
ด้านนายมาร์ค วอร์เนอร์ วุฒิสมาชิกของสหรัฐ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า “การเคลื่อนไหวครั้งใหม่นี้ตอกย้ำความกังวลอย่างจริงจังว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอนุญาตให้วิศวกรและผู้บริหารของติ๊กต็อกในจีนเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ในสหรัฐได้ แม้จะอ้างต่อฝ่ายนิติบัญญัติและผู้ใช้หลายครั้งว่าข้อมูลนี้ได้รับการคุ้มครองก็ตาม”
ก่อนหน้านี้สภากิจการกำหนดนโยบายจีนแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน แถลงเร่งตรวจสอบบริษัท ไบท์แดนซ์ เนื่องจากต้องสงสัยว่ามีการดำเนินการเชิงพาณิชย์ที่ผิดกฎหมายในไต้หวันและมีความเสี่ยงสูงที่รัฐบาลจีนจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน
นอกจากนี้เมื่อต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา นายท็อดด์ โรกิตา อัยการสูงสุดประจำรัฐอินเดียนา สหรัฐอเมริกา ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีติ๊กต๊อกในข้อกล่าวหาว่ามีเนื้อหาไม่เหมาะสมต่อเยาวชน รวมถึงละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นการฟ้องร้องต่อเนื่องหลังจากทางการรัฐเท็กซัส รัฐเซาท์ดาโกตา และรัฐเซาท์แคโรไลนา ได้ร่างกฎหมายเพื่อยับยั้งการใช้แอพพลิเคชันติ๊กต๊อกในกรณีเดียวกัน หนำซ้ำติ๊กต็อกยังเผชิญหน้ากับความท้าทายทางกฎหมายในสหราชอาณาจักรซึ่งบริษัทอาจต้องเสียค่าปรับมากถึง 27 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,100 ล้านบาท ฐานละเมิดความเป็นส่วนตัวของเยาวชนด้วย