วันที่ 20 ธ.ค.บีบีซีและเดอะการ์เดียนรายงานว่า นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเดินทางไปพบหารือกับนายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ท่ามกลางการคาดเดาว่า ผู้นำรัสเซียอาจพยายามกดดันผู้นำเบลารุสให้เข้าร่วมการโจมตียูเครนระลอกใหม่ ขณะที่นายเยฟเฮน เยนิน รมว.กลาโหมยูเครนกล่าวว่า ยูเครนกำลังตรึงเข้มการป้องกันพรมแดนทางเหนือติดกับประเทศเบลารุส เสริมกองกำลังติดอาวุธและอาวุธยุทโธปกรณ์ป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากรัสเซียและเบลารุส
นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำทั้งสองพบหารือที่ประเทศเบลารุสในรอบ 3 ปีครึ่ง ซึ่งเบลารุสมีพรมแดนติดกับรัสเซียรวมถึงยูเครนด้วย นับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากสำหรับการเยือนครั้งนี้ ซึ่งนายปูตินบินมาที่กรุงมินสก์ เมืองหลวงเบลารุสด้วยตนเอง ต่างจากในอดีตที่ผ่านมา แม้นายปูตินและนายลูคาเชนโกพบหารือกันบ่อย แต่นายลูคาเชนโกเป็นฝ่ายบินไปหานายปูตินที่รัสเซีย
ภายหลังการหารือสองฝ่ายแถลงข่าวร่วมกันระบุว่า เป็นการเยือนที่ได้ผลและใช้เวลาหารือกว่า 2 ชั่วโมง นายปูตินกล่าวว่า รัสเซียไม่ต้องการดูดซึมใครก็ตาม และว่าศัตรูต้องการยุติการร่วมมือของรัสเซียและเบลารุส ด้านนายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า แถลงการณ์ของนายปูตินย้อนแย้งอย่างสูง เนื่องจากปัจจุบันนายปูตินกำลังดูดซึมยูเครน
การแถลงข่าวระบุว่า การหารือครอบคลุมประเด็นเศรษฐกิจ การค้าและความมั่นคง นายปูตินชี้ว่า เครื่องบินทหารของเบลารุสได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่เพื่อให้สามารถบรรทุกจรวดนิวเคลียร์ ซึ่งรัสเซียกำลังช่วยฝึกลูกเรือเบลารุสอยู่ นายลูคาเชนโก ขอบคุณนายปูตินสำหรับการจัดสรรระบบป้องกันภัยทางอากาศเอส-400 และระบบขีปนาวุธอิสคานเดอร์
ก่อนหน้านี้ นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.ว่า การคุ้มครองพรมแดนยูเครนที่ติดกับรัสเซียและเบลารุสเป็นภารกิจอันดับแรกเสมอ หลังจากประชุมหารือกับหน่วยบัญชาการทางทหารของยูเครนเพื่อเตรียมความพร้อม
ต่อมาภายหลังการเยือน นายปูตินสั่งให้เพิ่มความแข็งแกร่งทางทหารตรงพรมแดนรัสเซียและรวมถึงการควบคุมทางสังคมภายในรัสเซียด้วย นายปูตินกล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงควรสกัดความพยายามใดๆที่จะละเมิดพรมแดนรัสเซีย ต่อสู้กับความเสี่ยงที่มาจากต่างประเทศและระบุตัวตนผู้ทรยศและผู้ก่อวินาศกรรม
นายปูตินยังระบุอีกว่า หน่วยงานความมั่นคงพิเศษควรรับประกันความปลอดภัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หลายส่วนในยูเครนที่รัสเซียอ้างว่าเป็นของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงเมืองเคอร์ซอน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้รัสเซียเผชิญทุกข์ทรมานจากความล้มเหลวทางทหาร นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่า กองกำลังทหารรัสเซียประจำการในประเทศเบลารุสจะปฏิบัติการซ้อมรบทางทหารกับเบลารุส
ขณะที่เบลารุสไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครนของรัสเซียโดยตรง แต่เบลารุสอนุญาตให้กองทัพรัสเซียใช้ดินแดนของตนในการเปิดเฉากรุกรานยูเครนเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
…………