มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาสโมสร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมดังในศึกไทยลีก 1 โพสต์ถึงประเด็นสำคัญหลังประชุมเรื่องลิขสิทธิ์ไทยลีกซีซั่นนี้
โดยนายใหญ่ของทีมกว่างซ้ง ได้โพสต์ข้อความว่า………
ก่อนจะถึงวันที่ 3 กรกฎาคม วันที่ฟุตบอลไทยจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
จากที่เมื่ิอวานผมได้โพสท์ถึงบรรยากาศ คำพูดประโยคสำคัญ รวมไปถึงข้อห่วงใยของสโมสรสมาชิกนั้น
วันเดียวกันนั้นเองก็มีสัญญาณของความขัดแย้งระหว่างสมาคมกับแกนนำคนสำคัญในการปฏิวัติไทยลีกครั้งนี้ พูดถึงการแทรกแซงและกลเกมส์การต่อรองผลประโยชน์
อ่านแล้วไม่เป็นผลดีกับภาพลักษณ์ของสมาคมฟุตบอลเลย
ก่อนจะถึงวันที่ 3 กรกฎาคม ผมจึงอยากขอเป็นหนึ่งแรงที่จะขอแลกเปลี่ยนแนวทางกับสมาคมรวมถึงข้อห่วงใยครับ
วันนี้ลีก 1 กำลังจะแยกออกจากสมาคมฟุตบอล ซึ่งถ้าจะขอฉายภาพให้เห็นอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายของสมาคมฟุตบอลไปด้วย โดยใช้มติและความเดือดร้อนของ 16 สโมสรสมาชิกเป็นเหตุให้ต้องแยกออกมา
โดยที่ไม่ต้องมีใครรับผิดชอบ เหมือนเอาภาระค่าใช้จ่ายประจำหรือค่าจัดการแข่งขันออกจากความรับผิดชอบไป 165 ล้าน พร้อมๆ กับข้อผูกมัดที่ต้องหาผู้ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแล้วนำเงินก้อนนั้นมาแบ่งจ่ายให้กับสโมสรสมาชิก
เท่ากับว่ารายได้หลักของสมาคม ทั้ง 4 ทาง ซึ่งก้อนใหญ่สุดในเวลานี้คงหนีไม่พ้นที่แพลนบีหาให้ ประมาณ 500ล้านบาท ทีนี้เงิน 500 ล้านกำลังจะถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง
ซึ่งทางแพลนบีเท่าที่ได้อธิบายให้กับสโมสรสมาชิกในที่ประชุมนั้น เขาไม่ได้มีส่วนและความรับผิดชอบว่าต้องใช้เงิน 500ล้านบาทนี้ไปทำอะไร เป็นหน้าที่ของสมาคมเอาไปจัดการเอง
ผมมี 2 ประเด็นกับก้อน 500ล้านบาท ที่จะขอตั้งข้อสงสัยดังนี้
ประเด็นแรกครับ (อันนี้ผมเขียนก่อนที่ทางคิดไซด์โค้งจะเปิดสัดส่วนการใช้เงินนะครับ)
500ล้าน กำลังจะถูกนำไปใช้กับอะไร เมื่อพูดถึงทีมชาติไทยนั้น ถ้าแยกออกมาเป็นชุดใหญ่ ผมค่อนข้างแน่ใจว่าทางคุณแป้ง ก็รับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายบางส่วน โดยถ้าอิงกับงบการเงินจะใช้กับชุดใหญ่ 50ล้าน ชุดอื่นๆ รวมกันน่าจะไม่ถึง 200 ไม่รวมทีมชาติ 17 ปีที่ได้มีการชี้แจงแล้วว่าประมาณ 100ล้านที่ใช้ไป แต่ก็จะได้คืนจาก AFCบางส่วน
ถ้ารวมๆ กันคงไม่เกิน 300ล้าน ยิ่งถ้าก้อน 500ล้านบาทที่ใด้มาถูกแบ่ง 75% ให้กับทีมชาติตามข้อมูลที่ทางคิดไซด์โค้งได้เปิดเผยมา ก็ถือว่ายังมีเงินเหลือๆ ครับ
แต่ที่น่าคิดคือวิสัยทัศน์ที่ทางสมาคมเขียนเปรียบอุตสาหกรรมฟุตบอลไทยเป็นภูเขาน้ำแข็งนั้น เงินที่ใช้บนยอดเขานั้นมหาศาลมากๆ ตรงตีนเขากับกลางนั้นได้แบ่งจากแพลนบีแค่ 125 ล้านบาท ถ้าเปรียบตีนเขาก็คือฐานรากของอุตสาหกรรมฟุตบอลไทย คือลีก 1 2 3 คือนักกีฬา คือคนตัวเล็กๆ ในวงการฟุตบอลนั่นเอง
จากค่าใช้จ่ายการจัดการแข่งขันไทยลีกทั้ง 3 ระดับ ที่มี่ค่าใช้จ่ายรวม 294.6ล้านบาท
ถ้าหัก 165.8 ล้านบาทที่ใช้เฉพาะ T1 จะเห็นได้ว่าสมาคมยังต้องใช้เงินกว่า 128.8ล้านบาท ซึ่งเงินจากก้อน 500 ล้านที่แพลนบีหาได้โดยแบ่งให้สมาคมไปให้ฟุตบอลลีก 25% คือ 125ล้านบาท(อ้างอิงจากคิดไซด์โค้ง)ก็ยังไม่พอจะจัดการแข่งขันเลย
เพื่อนสโมสรครับ วันนี้มูลค่าของลีกไทย T1 กับ T2 ถูกเสนอซื้อมา 50 ล้าน วันนี้ T1 กำลังจะแยกตัวไป สมาคมมีแผนรองรับหรือยังว่าใครจะมาบริหารลีก 2กับ3 จะมีถ่ายทอดมั้ย จะมีเงินเหลือมาสนับสนุนสโมสรหรือไม่ ถ้าเป็นคนเดิมบริหารจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่ได้มีจุดจบแบบเดียวกับทุกวันนี้
ประเด็นที่ 2 ผมไม่แน่ใจว่าสัญญาการบริหารสิทธิ์ของสมาคมฟุตบอลภายใต้ความรับผิดชอบของแพลนบีได้มัดรวมเอาทั้งทีมชาติไทย ลีกฟุตบอลไทยไปมัดไว้รวมกันในสัญญาหรือไม่ คือถ้ามัดรวม การไปขายหรือหาสปอนเซอร์ก็จะเป็นมูลค่านึง ซึ่งถ้าตามข้อมูลของคิดไซด์โค้ง สัญญาปัจจุบันคือฉบับที่ 2 มีระยะเวลารวมในการเซ็นฉบับบนี้ 8 ปี
ซึ่งในการบริหารสิทธิ ต้องมีการการันตีรายได้ขั้นต่ำซึ่งสมาคมจะได้รับ และค่าคอมมิสชั่นที่ถูกหักชัดเจน
ถ้าวันนี้ 500ล้าน คือเงินที่หามาได้ ผมไม่แนใจว่านี่เป็นสัญญาขั้นต่ำที่แพลนบีจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ จะต้องถูกหักคอมมิสชั่นไปแพลนบี แล้วค่อยเอาเงินหลังถูกหักค่าคอมมาใช้จ่าย
แต่ถ้าวันนี้ฟุตบอลลีก 1 ถูกแยกออกจากสมาคมฟุตบอลไทย
1. สัญญาที่ทางสมาคมฟุตบอลไทยทำกับแพลนบีจะเป็นโมฆะหรือไม่
2. ต้องชดเชยหรือไม่?
3.เงินการันตีขั้นต่ำจะต้องลดลงหรือไม่ ในกรณีถ้าจะทำสัญญาฉบับใหม่กับแพลนบี?
4.เงินในการถูกแบ่งให้กับฟุตบอลระดับล่างจะได้รับผลกระทบ กล่าวคือลดลงมาอีกมั้ย
มีอีกหลายผลลัพธ์ที่กำลังจะตามมาอีกมากมาย หากเราไม่มีแผนการรองรับ โดยเฉพาะกับฐานรากของภูเขาน้ำแข็ง ตามวิสัยทัศน์ที่สมาคมได้เปรียบเทียบอุตสาหกรรมฟุตบอลไทย
เมื่อวานยังไม่เคลียร์กัน วันนี้ผู้ใหญ่เคลียร์กันจบ ผมขอได้ช่วยรีบหาทางออกให้กับลีกล่างโดยเร็วครับ เพราะได้ข่าวมาว่าหลายทีมกำลังจะขอพัก หลายทีมก็ประกาศขายทีม เพื่อปลดภาระ
ฟุตบอลไทยสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนกว่า 30,000ล้านบาท ถ้าวันนี้ชาวบ้านฟุตบอลไทย คนรากหญ้ากินไม่อิ่ม รู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง อุตสาหกรรมที่พวกเรารักและทุ่มเทร่วมกันสร้างมากว่า 20-30 ปี ก็จะพัง
ด้วยรักและเคารพผู้ใหญ่ทุกท่าน
รักฟุตบอลไทย รักประเทศไทย
มิตติ ติยะไพรัช
ปล.ด้วยความห่วงใยกับพี่น้องคนฟุตบอลตัวเล็ก ผมได้แรงบันดาลใจและกำลังใจจากพี่น้องหลายคน จึงทำให้ผมยังต้องขับเคลื่อนและพยายามให้ผู้ใหญ่ในสมาคมได้ตระหนักและเห็นถึงปัญหาของพวกเรา