บิวตี้บล็อกเกอร์หลบไป ‘ตำรวจสอบสวนกลาง’ ทำคลิปรีวิว สอนดูเครื่องสำมอางของแท้-ของปลอม ดูเพลินพูดชัด แถมตำรวจหนุ่มก็ทำหลุดโฟกัสมองแต่หน้าลืมดูรีวิว
หลังจากที่เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ปคบ. และ อย. ได้บุกทลายโกดังเครื่องสำอางปลอมเคาน์เตอร์แบรนด์ดังหลายยี่ห้อ ที่พบการหลอกขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 18 ยี่ห้อดัง มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนหลังมีผู้บริโภคจำนวนมากที่ซื้อเครื่องสำอางทางออนไลน์ เมื่อนำไปใช้แล้วพบว่าเป็นเครื่องสำอางปลอมและด้อยคุณภาพ
อ่าน : ปคบ. – อย. บุกทลายโกดัง เครื่องสำอางปลอม 18 แบรนด์ดัง ขายออนไลน์
ล่าสุดทางโลกออนไลน์ก็ได้มีการแชร์คลิป ของตำรวจสอบสวนกลาง ที่นำมาลงผ่านติ๊กต็อกบัญชี cibpolice ที่มีการโพสต์พร้อมระบุข้อความว่า “ตำรวจสอบสวนกลาง เตือนภัยนักช็อปออนไลน์ ระวังถูกหลอกขายเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ปลอม!! #ปคบ #เครื่องสำอางปลอม #ตำรวจสอบสวนกลาง #cibpolice”
โดยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปของเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มรายหนึ่ง ที่อยู่ในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง ได้ออกมาแนะนำให้ซื้อสินค้าจากเว็บไซต์และร้านค้าที่เป็นทางการของแต่ละแบรนด์ ก่อนที่จะเริ่มรีวิวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่ง ซึ่งเป็นครีมกันแดด โดยนำของแท้กับของปลอมมาเปรียบเทียบให้ดู
ต้องแต่การสังเกตกล่องและขวดผลิตภัณฑ์ ก่อนที่จะบีบเนื้อครีมจากขวดลงบนหลังมือ เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ถึงเนื้อครีมของผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้และของปลอม บอกเลยว่าวิธีการรีวิวนี่ไม่แพ้บิวตี้บล็อกเกอร์มืออาชีพเลยก็ว่าได้
และหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม โดยส่วนใหญ่ต่างเข้ามาชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านนี้ว่าการรีวิวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนั้นดูเป็นมืออาชีพมาก ๆ ทั้งการพูดภาษาไทยและภาษาอังกฤษก็ชัดถ้อยชัดคำ น่าฟัง
ซึ่งถ้าหากไม่ได้ลงในช่องของตำรวจสอบสวนกลาง ก็อาจจะอาจจะทำให้นึกว่าเป็นการรีวิวผลิตภัณฑ์ทั่วไปเลย ทั้งยังมีชาวเน็ตบางส่วนเข้ามายอมรับตรง ๆ ว่าการรีวิวในครั้งนี้ดูเพลินมาก จนหลุดโฟกัสจากผลิตภัณฑ์ เพราะมองแต่หน้าคนรีวิว ไม่ได้ดูการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์เลย
@cibpolice ตำรวจสอบสวนกลาง เตือนภัยนักช็อปออนไลน์ ระวังถูกหลอกขายเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ปลอม!! #ปคบ เครื่องสำอางปลอม ตำรวจสอบสวนกลาง #cibpolice
♬ Heartwarming weakness system “3 minutes cooking song”(941517) – ラフティープロダクション
ที่มา : tiktok