จากกรณีเหตุแก๊สหุงต้มระเบิดภายในห้องครัวใต้ถุนอาคาร สำหรับจัดงานเลี้ยงและสัมมนา จนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ข้าวของ เศษอิฐ พื้นและผนัง กระจก กระจัดกระจายโดยรอบ ภายในโรงแรม แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใน ต.ห้วยไผ่ และติดกับ ต.ดอนแร่ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี

ล่าสุด นายอุดม เพชรคุด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย นายวาทินทร์ ทองแก้ว พลังงานจังหวัดราชบุรี ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง และ หน่วยงานท้องถิ่น พร้อมด้วย พลตำรวจตรี วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ทำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน กำลังตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสาเหตุการเกิดระเบิดที่แท้จริง พร้อมทั้งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปภ. แรงงานจังหวัด สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน เข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

จากการเดินเข้าไปตรวจสอบภายในอาคาร และ รอบนอกของอาคาร เป็นอาคารยกพื้นสูง ตรงกลางมีสระว่ายน้ำ ส่วนอีกฝากฝั่งเป็นอาคารที่พัก และมีห้องกระจกเป็นที่รับประทานอาคาร ห้องประชุมขนาดเล็ก โดยอาคารที่สัมมนาและจัดงานเลี้ยง ถูกแรงระเบิดของแก๊สเสียหายทั้งหลัง ไม่เหลือเป็นสภาพที่ใช้การได้ พื้นทางเดินถูกแรงระเบิดจากด้านใต้อาคารนูนขึ้นคล้ายหลังเต่า ไม่สามารถเดินเข้าไปได้ ผนังถูกแรงอัดระเบิดกระจัดกระจายกระเด็นไปกว่า 100 เมตร กระจกแตกทั้งหมด

ส่วนทางสระว่ายน้ำ เบื้องต้นมีรอยรั่วตามขอบที่ติดกับทางเดิน เนื่องจากเกิดแรงอัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ปิดกันไม่ให้เข้าใช้งาน เพราหวั่นมีรอยแตกของสระ ขณะที่อาคารที่พัก ด้านหน้าติดกับสระว่ายน้ำกระจกแตกทั้งหมด ฝ้าเพดาลอาคารพังทลายลงมา และมีลอยแรงระเบิดห้องใต้อาคารได้รับความเสียหาย ส่วนที่ห้องพักไม่ได้รับความเสียหายใดๆ สามารถใช้งานได้ตามปกติ

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 4 ราย รายแรกเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายประภาศ ชัยสุวรรณ อายุ 42 ปี เป็น ผู้ช่วยกุ๊ก รายที่ 2 นางสาวสมบูรณ์ อวบอิ่ม อายุ 50 ปี เป็นแม่ครัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์ให้รักษาตัวที่โรงพยาบาลราชบุรี เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด รายที่ 3 น.ส.ทองล่า รัตนวงศ์ อายุ 50 ปี และนางอัมพร คำม่อมท้าว อายุ 51 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกไฟคลอกตามร่างกาย แพทย์รักษาและเฝ้าดูอาการพร้อมทั้งให้กลับบ้านได้ โดยทั้งหมดเป็นคนงานที่อยู่ในอาคารจัดเลี้ยงดังกล่าว เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนจะนำส่งโรงพยาบาลราชบุรี

พร้อมกันนี้ นายวาทินทร์ ทองแก้ว พลังงานจังหวัดราชบุรี พร้อมกับทางเจ้าของ โรงแรมดังกล่าว ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบด้านหลังของอาคาร พบว่ามีเศษผนัง เศษปูน กระเบื้อง และ ชิ้นส่วนของเตาแก๊ส ท่อแก๊ส และ อุปกรณ์ดูลม ถูกแรงระเบิดปลิวกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ พร้อมทั้งเดินเข้าไปตรวจสอบห้องต้นเหตุพบว่าถูกพื้นอาคารชั้น 2 ถล่มลงมาทับ มีเศษกระเบื้อง เศษปูน และตู อุปกรณ์ห้องครัวกระจัดกระจายเต็มห้อง

นายวาทินทร์ ทองแก้ว พลังงานจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นการเดินสำรวจ และ ข้อมูลจากทางโรงแรม ทราบว่ามีการเดินท่อตามแนวอาคาร เข้าไปภายในห้องครัว มีเศษวัสดุของแข็งตกลงมากระแทกกับท่อ สันนิษฐานว่าจะเกิดการรั่ว ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะทางเดินท่อแก๊สออกจากห้องที่เก็บถังแก๊ส มาเข้ายังห้องครัว

 นายวาทินทร์ ให้ข้อมูลว่า ปกติแล้ว แก๊ส LPG หรือ แก๊สหุงต้มจะหนักพอรั่วออกมาแล้วจะตกลงสู่ที่ต่ำ ก็จะไปค้างที่พื้น ซึ่งเราไม่รู้ว่าแก๊สขังอยู่นานเท่าไหร่ และ มีปริมาณเท่าไหร่ พอแก๊สเจอประกายไฟส่งผลให้เกิดวาร์ปไฟ หรือ ติดไฟ ประเด็นคือการวาร์ปไฟอยู่ในที่ปิด เหมือนผัดผักบุ้งไฟแดง ไฟไม่ติดที่ถังแก๊ส จะติดที่หน้าเต้า พอมาดูตรงท่อที่ติดฝาผนัง พอผนังหลุดกระตุกท่อแก๊สหลุดออกมา ซึ่งตนสันนิษฐานว่า การระเบิดครั้งนี้มาจากแก๊สแน่นอน

ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสคุยกับทางเจ้าของโรงแรม ซึ่งกำลังอยู่ในอาการตกใจ และเสียดายต่ออาคารดังกล่าว เพราะสร้างมากว่า 20 ปี แล้ว รวมค่าความเสียหายประมาณ 20-40 ล้าน ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้มาก ต้องลงทุนใหม่สร้างใหม่ ก็ต้องคุยกันในบ้านก่อน ตอนสร้างตนก็ดูแบบ และเลือกวัสดุมาให้ช่างสร้าง คิดว่า คงทนแล้ว แต่สู้แรงระเบิดไม่ได้

ขณะที่นายสมศักดิ์ อุดง อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.ดอนแร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับทางโรงแรม เล้าให้ฟังว่า ทีแรกคิดว่าค่ายทหารมีทำลายวัตถุระเบิด แต่ฟังดีๆ ไม่ใช่เพราะเสียงดังครั้งเดียว จึงออกมาดูพบว่า อาคารของทางโรงแรมระเบิดเสียหายทั้งหลัง ตนจึงรีบเข้าไปดูว่ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่ และรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
                                                                           
พลตำรวจตรี วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ได้ให้สาเหตุในเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากถังแก๊สหุงต้มขนาด 45 กิโลกรัม รั่วไหล และเกิดการระเบิดจนได้รับความเสียหายทั้งหมด ขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐาน จากสถานีตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ได้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการระเบิดที่แท้จริง ซึ่งเราไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งจงใจให้เกิด ความประมาทเลินเล่อจนทำให้เกิดเหตุ หรือ อุปกรณ์ชำรุดจนทำให้เกิดเหตุ โดยต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้เสร็จก่อน เพราะขณะนี้ ผู้บาดเจ็บยังไม่ได้วอบปากคำ ทั้งนี้อยากฝากเตือนผู้ประกอบการร้านค้า โรงแรม ต้องสำรวจ และตรวจสอบถังแก๊ส ท่อแก๊ส อุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมใช้งาน หรือ มีสภาพเก่ามาก หากชำรุดต้องรีบเปลี่ยน โดยเฉพาะหากได้กลิ่นแก๊สต้องรีบตรวจสอบและหาที่มาของกลิ่นแก๊ส ไม่ควรติดไฟ หรือ จุดไฟเป็นอันขาด จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก