เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2567 ภายในซอยเลี่ยงเมืองนนท์ 3 อำเภอเมืองจังหวัดนนทบุรี ได้มีชาวบ้านร้องเรียนหลังโดนสุนัขตัวเดิมกัด ที่ก่อนหน้านี้เธอเคยโดนกัดจนทำให้สามีอาละวาดหนัก จึงได้ทีการประสานหน่วยงานในพื้นที่ลงมาช่วยจับ แล้วไปปล่อยอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมห่างจากชุมชนหลายกิโลเมตร แต่ไม่นานก็เดินทางกลับมาเองได้

ภายในซอยเลี่ยงเมืองนนท์ 3 อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พบสุนัขชื่อ “ไอ้สาม” หมาพันธุ์ไทยสีน้ำตาลแดงรูปร่างสมส่วน วิ่งเล่นอยู่ภายในซอยและเห่าใส่คนที่เดินผ่านไปผ่านมา โดยชาวบ้านทุกคนทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘กลัวไอ้สาม’ เวลาเดินผ่านจะพยายามเร่งฝีเท้า ส่วนเด็ก ๆ ก็จะรีบวิ่งให้พ้น นอกจากนี้ยังมี ไอ้ตังค์ สุนัขสีขาวดำ และไอ้หนึ่ง สุนัขตัวสีดำน้ำตาล อยู่กันเป็นแก็งแต่โชคดีที่อีก 2 ตัวไม่เคยกัดชาวบ้าน

นางสาวกศมา อายุ 23 ปี กล่าวว่า ตอนแรกมีหน่วยงานเข้ามาจับไอ้สามออกจากพื้นที่แล้ว ชาวบ้านโล่งใจมากเพราไอ้สามดุร้าย ชอบกัดชาวบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมา ทั้งคนงาน เด็กเล็กวินมอเตอร์ไซค์ หญิงสาวที่พักอาศัยอยู่อพาร์ทเม้นท์หน้าปากซอยและล่าสุดก็กัดตน รวมทั้งหมด 6 ราย

• แทบช็อก! ไม่กลับบ้านมา 5 ปี เจอ ปลวกแทะบ้าน ทั้งหลัง จนเหลือแต่ซาก
• วิกฤต! หลังญี่ปุ่นเตือนภัยสึนามิ ปชช.เร่งตุนของ จนทำสินค้าเกลี้ยงเชลฟ์
• สลด! พบศพทารกเพศหญิง ถูกห่อด้วยถุงดำซ่อนในตู้ล็อกเกอร์ นาน 1 สัปดาห์

ล่าสุดที่โดยกัดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนตนเดินออกไปหน้าบ้าน ปรากฏว่าเห็นไอ้สามวิ่งมาแต่ไกล ตอนนั้นรู้สึกแล้วว่าน่าจะอันตรายแน่นอน จึงยืนอยู่นิ่ง ๆ แล้วพยายามตะโกนเรียกชื่อมันให้คุ้นเคย แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้น ถูกไอ้สามกัดที่บริเวณขาขวาจนขายังบวมช้ำและรอยเขี้ยว

เบื้องต้นได้ไปโรงพยาบาล ล้างแผลและฉีดยากันบาดทะยักแล้ว ตอนนี้เวลาเดินไปไหนมาไหนต้องถือไม้ตลอดเพราะกังวลและกลัวมาก จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือหน่วยงานที่รับสัตว์รักหมา นำไอ้สามไปดูแลทีและยืนยันว่าชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีใครให้อาหารไอ้สามเลยเพราะทุกคนรู้ว่าเป็นหมาจรจัด ประกอบกับพื้นที่บ้านเป็นบ้านสวน แม้จะมีประตูรั้ว แต่หลังบ้านก็เป็นสวนสุนัขสามารถวิ่งเข้าวิ่งออกผ่านไปผ่านมาได้

นายพลกฤษณ์ เพชร์คล้าย อายุ 30 ปี พลเมืองดี กล่าวว่าครั้งนี้ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ เพราะตนเพิ่งจะจับไอ้สามไปอยู่ในที่พักพิงได้ไม่นาน แล้วกว่าจะจับมันได้ต้องหลอกล่อให้กินยาง่วงซึม จากนั้นเอาผ้านวมขนาดใหญ่อุ้มร่าง ไอ้สามขึ้นรถกระบะโดยใช้ผ้านวม ปิดตามันอย่างดีเพื่อหวังว่ามันจะจำทางกลับชุมชนไม่ได้ ปรากฏว่าผ่านไปไม่นานไอ้สาม หมาอันตรายดุร้ายสามารถเดินกลับมาได้

จึงต้องร้องสื่ออีกครั้งเพื่อขอความช่วยเหลือครั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่รักสุนัข มาช่วยจับพาไปอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมจะดีกว่า และครั้งนี้ขอให้ไม่จับแค่ไอ้สามแล้วแต่จับไอ้หนึ่งและไอ้ตังค์ไปด้วยเพราะ 2 ตัวนี้เป็นเพื่อนสนิทกับไอ้สาม มักจะคลุกคลีอยู่ด้วยกันตลอดเวลาและเชื่อว่าที่ไอ้สามกลับมา เพราะอยากอยู่กับ 2 ตัวนี้อย่างแน่นอนเพราะงั้นให้ไปอยู่ด้วยกันทั้ง 3 ตัวเลย