ธรรมนัส ยันสู้เต็มที่ ไม่มีดีลลับ หวนจับมือเพื่อไทย รับแพ้เลือกตั้ง พรรคเสียเครดิต ทำแนวร่วมหาย เผย ส.ส.กลุ่ม 16 จ่อซบเศรษฐกิจไทย
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย(ศท.) กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ถึงข้อสังเกตของนักวิชาการบางคน ระบุพรรคเศรษฐกิจไทย เล่นลิเกโรงใหญ่ มีดีลลับกับเพื่อไทย ทำให้แกล้งแพ้ในการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 4 ลำปาง เพื่อสร้างเงื่อนไขไปอยู่กับฝ่ายค้านว่า ถ้าไม่ลงพื้นที่จริง จะไม่รู้ว่าเป็นการเล่นเกมหรือไม่ ไม่มีครั้งไหนที่ตนทุ่มเทลงพื้นที่ เท่ากับการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยลาประชุมสภา เพื่อไปฝังตัวในพื้นที่ ปราศรัยทุกวัน วันละ 3 รอบ ใน 27 ตำบล
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราทำโพลสำรวจก่อนลงคะแนน ผลออกมาว่าเราแพ้ขาด ทำให้เครียด ต้องมาหารือกับกรรมการบริหารพรรค และส.ส. 16 คน เพื่อปรับกลยุทธ์ เพราะเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ สู้กันระหว่างอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยม ซึ่งต่างจากการเลือกตั้งซ่อมเมื่อปี 2563 ที่ตนยอมรับว่าได้คุยได้เจรจาในพื้นที่ แต่ครั้งนี้ไม่ได้คุยกัน
ต่อมาการทำโพลครั้งที่ 2 เราก็แพ้ ปราศรัยย่อยและปราศรัยใหญ่ ทุ่มเทสรรพกำลังทั้งหมดลงไป จนถึงวันปิดหีบ ยังมั่นใจอยู่ว่ากระแสจากประชาชนยังสนใจเราอยู่ แต่การปราศรัยย่อยมีคนมาฟังจำนวนหนึ่ง ขณะที่ปราศรัยใหญ่ ที่คนนับแสนไม่ได้มาฟัง จึงไม่เข้าใจจุดยืนเรา ยืนยันว่าไม่ใช่การแกล้งแพ้แน่นอน
เมื่อถามว่าผลโพลแพ้ขาด เหตุใดไม่ขอความช่วยเหลือจากนายพินิจ จันทรสุรินทร์ อดีตส.ส.ลำปาง เจ้าของพื้นที่เดิม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ได้ขอความช่วยเหลือ ไม่อยากรบกวน เพราะทราบว่าภรรยาป่วย อยากเดินด้วยตัวเอง และอยากรู้ว่าฐานของพรรค เพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่ แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมามีเสียงสะท้อนจากผู้นำชุมชน และตำหนิผู้สมัครของพรรคที่ห่างพื้นที่ เนื่องจากงานสภามีประชุมมาก ไม่ได้กลับพื้นที่ ทั้งนี้ เชื่อว่านายพินิจ ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงฐานคะแนนให้มาเทคะแนนให้กับพรรคเสรีรวมไทย และอยู่เฉยๆ เพราะทราบว่ามีความเกรงใจกับพรรคเสรีรวมไทยอยู่
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยไม่เทคะแนน หรือไม่ส่งคนลงเลือกตั้งนั้น ตนมองว่าเวลาสภาเหลืออีกไม่นานและผู้สมัครยังไม่ลงตัว จึงไม่ส่ง นอกจากนั้นพรรคเพื่อไทย คงอยากรู้ว่าฐานที่แท้จริงของพรรคเศรษฐกิจไทยที่แท้จริง มีเท่าไหร่ด้วย ทั้งนี้ จากการเลือกตั้ง ยอมรับว่าเรามีฐานเสียงประมาณ 3 หมื่น ทั้งจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 และในครั้งนี้ แต่จะเป็นฐานสำคัญที่ต้องถอดบทเรียนในการเลือกตั้งครั้งหน้าของเราต่อไป ส่วนหนึ่งเรารู้ว่าแกนนำ อสม. ผู้นำท้องถิ่น ถูกเบรกโดยคนที่มองไม่เห็น และไม่สามารถลงพื้นที่ให้เราได้ และมีการตัดกำลังไม่ให้เราลงพื้นที่
คนที่วิเคราะห์ว่าพรรคเศรษฐกิจไทย แกล้งแพ้ ผมมองว่าอาจฟังมาจากหลายด้านและผสมกับหลักรัฐศาสตร์ว่ามีแนวโน้มว่าผมอยากกลับไปบ้านเดิมของผม จึงหาเหตุและผลที่ทำให้สังคมมองได้ แต่ในความเป็นจริง หลักรัฐศาสตร์กับหลักข้อเท็จจริงบางครั้งต่างกัน การทุ่มเทครั้งนี้ ไม่ใช่มาเล่นๆ เพราะครอบครัวเศรษฐกิจไทยหลายคนมาลงพื้นที่ด้วย หากผมไม่เอาจริง คนเหล่านี้จะอยู่กับผมหรือไม่ และคนที่จะเข้ามาเป็นครอบครัวเศรษฐกิจไทย จะมองอย่างไร
“การพ่ายแพ้ครั้งนี้ พรรคเสียเครดิต เสียทรงมวย และยังกระทบกับผู้สมัคร และว่าที่ผู้สมัครหลายคน นักการเมืองท้องถิ่นที่จะมาอยู่กับเรา หลายจังหวัดโดยเฉพาะในภาคอีสานถอนตัว ที่จะมาอยู่กับเรา ถามว่าหากแกล้งแพ้จะได้อะไร” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สำหรับกลุ่ม 16 ที่จะลงในนามพรรคเศรษฐกิจไทย จะย้ายมาอยู่กับตนมี 5 คนขึ้นไป ยังเหนียวแน่นกับตนและได้ลงพื้นที่ในนามพรรคเศรษฐกิจไทยอยู่แล้ว ทั้งนี้ ในวันที่ 15 ก.ค. จะไปกราบลาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และวันที่ 18 ก.ค.จะไปคุยกับแกนนำกลุ่ม 16 อาทิ นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เกี่ยวกับท่าทีการอภิปราย เพื่อประกาศจุดยืนและแนวทางที่ชัดเจนของพรรค