มืดมิดมากว่า 20 ปี ชาวบ้านป่าขี้ทราย ม.6 ต.ปากแจ่ม 17 ครัวเรือน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องช่วยตัวเองสารพัดวิธี ไฟกระชาก หุงข้าวยังไม่สุก พัดลมหมุนช้า

วันที่ 19 ธ.ค.2565 ที่หมู่บ้านป่าขี้ทราย ม.6 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ 17 ครัวเรือน พร้อมทั้งรีสอร์ต ไม่มีไฟฟ้าใช้มากว่า 40 ปีแล้ว แม้พื้นที่อีกฝั่งของหมู่บ้านใกล้กับถนนสายหลัก จะมีสาธารณูปโภคครบ ทั้งไฟฟ้า ประปา ทำให้ชาวบ้านที่นี่ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก และก่อนนี้ได้รวมตัวกันร้องขอไฟฟ้ามาโดยตลอดนับตั้งแต่เมื่อ 17 ปีที่แล้ว แต่ไม่เป็นผล

มืดมิดมากว่า 20 ปี ชาวบ้านป่าขี้ทราย ม.6 ต.ปากแจ่ม 17 ครัวเรือน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องช่วยตัวเองสารพัดวิธี ไฟกระชาก

ต้องช่วยเหลือตัวเองเพื่อแก้ปัญหา เช่น ใช้แบตเตอรี่รถยนต์เป็นแหล่งกำเนิดกระแสไฟฟ้า ติดตั้งโซล่าเซลล์ หรือช่วยกันลงขันครัวเรือนละ 5,000-6,000 บาท เพื่อขอพ่วงไฟฟ้าจากบ้านของเพื่อนบ้าน พร้อมติดตั้งมิเตอร์เกษตร แม้ค่าไฟฟ้าประเภทนี้จะแพงกว่าไฟฟ้าครัวเรือนทั่วไปก็ตาม

อย่างไรก็ตาม การต่อพ่วงไฟฟ้าเข้ามา หรือโซล่าเซลล์ หากใช้งานพร้อมกันหลายครัวเรือน จะทำให้ไฟฟ้าไม่เสถียร ไฟตก ไฟกระชาก จนเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ให้ถึงเหตุผลที่ไม่สามารถติดตั้งไฟฟ้าให้ชาวบ้านได้ว่า เพราะมีกรณีพิพาทที่ดินของบริษัทสัมปทานเหมืองแร่ในอดีต และที่ดินของหมู่บ้านแห่งนี้อาจมีปัญหาทับซ้อนกับเขตป่าสงวน

นายปริญญา เบญจกุล หนึ่งในชาวบ้านป่าขี้ทราย ม.6 ต.ปากแจ่ม กล่าวว่า ชาวบ้านที่นี่ 17 ครัวเรือน มีบ้านเลขที่ แต่กลับไม่มีไฟฟ้าใช้ และเป็นปัญหาคาราคาซังมาหลายปี ก็ไม่มีใครช่วยได้ ชาวบ้านต้องช่วยตัวเอง เช่น ต้องลงทุนติดตั้งโซล่าเซลล์ เพื่อให้ลูกหลานได้มีแสงสว่างอ่านหนังสือ ทำการบ้าน

นายปริญญา กล่าวต่อว่า พวกตนดิ้นรนเรียกร้องมา 17 ปีแล้ว ไปติดต่อทั้ง กฟภ. สำนักงานป่าไม้ ศูนย์ดำรงธรรม หรือ อบต.ปากแจ่ม แต่ไม่มีหน่วยงานไหนออกมาเป็นเจ้าภาพแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้ สวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ระบุชัดว่า ทุกคนต้องมีไฟฟ้าใช้

ด้าน น.ส.พัชนี เพียรดี กล่าวว่า ครอบครัวเดือดร้อนมากเพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ ที่บ้านอาศัยอยู่หลายคน มีทั้งคนแก่ คนพิการ และเด็ก การอยู่ในความมืดไม่ปลอดภัย คนแก่จะเดินเหิน สายตาฝ้าฟางก็มองไม่เห็น ก็เสี่ยงหกล้ม หรือหากมีสัตว์ร้ายก็ไม่ปลอดภัย ยิ่งช่วงเย็นที่ใช้ไฟพร้อมกันหลายหลังคาเรือน ไฟฟ้าจะตก บางครั้งหุงข้าวก็ไม่สุกด้วยซ้ำ พัดลมก็หมุนช้า ทำให้เครื่องใชไฟฟ้าเสียง่ายกว่าปกติ

น.ส.พัชนี กล่าวต่อว่า ส่วนหลานที่อยู่ในวัยเรียน ก็ต้องรีบทำการบ้านตั้งแต่ยังไม่พลบค่ำ จะชาร์จแบตเตอรี่มือถือที ก็ต้องนำไปชาร์จที่ทำงาน ขณะที่เพื่อนบ้านบางหลังมีอาชีพขายนมสด ต้องได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่มีตู้เย็นแช่นมสด ต้องลงทุนซื้อน้ำแข็งวันละ 50-60 บาทมาแช่

ขณะที่ นายภักติยะ บุญธะรา สมาชิกสภา อบต.ปากแจ่ม ม.6 ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เดือดร้อนด้วย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้นำเรื่องการขยายเขตไฟฟ้าเข้าแผนพัฒนาของ อบต.ปากแจ่ม แล้ว แต่ติดปัญหาว่าที่ดินละแวกนี้มีข้อพิพาทกับบริษัทสัมปทานเหมืองแร่ในอดีต และไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ หรือรับรองแนวเขตว่าเป็นที่ดินของใครกันแน่

นายภักติยะ กล่าวอีกว่า ซึ่งหากไม่มีข้อสรุป ตนจะนำเรื่องนี้เข้าข้อบัญญัติทำประชาคมชาวบ้านระดมความเห็น เพื่อพัฒนาทางสาธารณะเข้าสู่หมู่บ้านแห่งนี้ และขอขยายเขตไฟฟ้าต่อไป แต่ไม่รู้จะดำเนินการได้แค่ไหนอย่างไร