ไม่ต้องรอวัคซีนรุ่นใหม่! สธ. ชวนฉีดเข็ม 4 หลังยอดติดโควิด ผู้ป่วยปอดอักเสบ และเสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่ม 608
13 ธ.ค. 2565 – ที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเปิดกิจกรรม “อสม. เชียงใหม่ รวมพลังกายใจ นำประชาชนไทยรับวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น” ว่า สถานการณ์โควิด 19 ของไทย ขณะนี้แนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยว มีกิจกรรมรวมกลุ่มของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติจำนวนมาก รวมถึงเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เชื้ออยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานและแพร่เชื้อง่ายขึ้น
สธ. จึงเร่งรณรงค์ฉีดวัคซีน เพื่อลดอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโควิด มีเป้าหมายให้ทุกจังหวัดฉีดวัคซีนรวมได้อย่างน้อย 2 ล้านโดส ภายใน ธ.ค. 2565 เน้นสื่อสารให้ทราบถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนอย่างน้อยคนละ 4 เข็ม
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เชียงใหม่ เป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลัก มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพื้นที่มากขึ้น ในช่วงฤดูหนาว พ.ย.- ธ.ค. 65 จึงมีการจัดกิจกรรม “ชาวเชียงใหม่ฮ่วมใจ๋ฉีดวัคซีนโควิด เข็มกระตุ้น”
โดยเปิดหน่วยฉีดทั้งเชิงรับใน รพ และเชิงรุก mobile vaccine unit ตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ชุมชน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และโรงเรียน พร้อมทั้งให้ อสม.เป็นเครือข่ายช่วยประชาสัมพันธ์กระตุ้นประชาชนให้เข้ารับวัคซีน สำหรับกิจกรรมวันนี้ เพื่อกระตุ้นการรับอย่างน้อยคนละ 4 เข็ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อช่วยลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด 19 ในไทย ตั้งแต่วันที่ 4-10 ธ.ค. พบผู้ป่วยรักษาตัวใน รพ. 3,961 ราย เฉลี่ย 565 รายต่อวัน แม้ผู้ป่วยรายใหม่ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว แต่มีจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้นเป็น 649 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็น 385 ราย หรือร้อยละ 10 พบผู้เสียชีวิตรวม 107 ราย เฉลี่ย 15 รายต่อวัน แนวโน้มเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์ กลุ่ม 608 เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 สูงสุดถึงร้อยละ 97 ทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลย และไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือได้รับนานเกิน 3 เดือน ขอให้ไปรับวัคซีนอย่างน้อย 4 เข็ม ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือน ขอให้รีบไปฉีดวัคซีนเข็มถัดไป เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันการป่วยหนัก และลดการเสียชีวิตจากเชื้อโควิด 19 โดยไม่ต้องรอวัคซีนรุ่นใหม่