ก้าวไกล เผยผลตรวจหมูจากฟาร์มนครปฐม พบติดโรคอหิวาต์หมูตั้งแต่ปี 64 จี้รัฐบาลรับผิดชอบปกปิดข้อมูล ชี้หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2565 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าการพิสูจน์ข้อมูลของกรมปศุสัตว์ มีการปกปิดโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาสุกร (ASF) หรือไม่ว่า จากการพูดคุยกับผู้เลี้ยงสุกรและผู้ประกอบการในหลายๆ พื้นที่ ทุกคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า มีการติดเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาสุกรตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน
แต่ที่กรมปศุสัตว์ตรวจเจอที่โรงฆ่าสัตว์ จ.นครปฐมนั้น เป็นเคสแรกซึ่งอยู่ในปี 2565 จึงเป็นข้อสงสัยว่า หมูที่ตายตั้งแต่ปี 2564 ตายด้วยโรคอะไร เกษตรกรหลายคนมีการเจาะเลือดไปตรวจที่แล็บของกรมปศุสัตว์ แต่ปรากฏว่าไม่เคยได้รับผลตรวจกลับมา เหลือแต่การรายงานผลว่าเป็นโรคเพิร์ส
นายปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น เราจึงขุดซากสุกรในฟาร์ม จ.นครปฐม และส่งไป 3 ตัวอย่าง ได้แก่ 1.ซากแม่สุกร ที่ถูกฆ่าและฝังไว้ตั้งแต่ปี 2564 โดยใช้ไขกระดูก นำไปตรวจ 2.ซากลูกสุกรที่ถูกหมักไว้ในถัง EM และ 3.น้ำ EM ที่หมักเรียบร้อยแล้ว โดยนำไปตรวจด้วยวิธี PCR ซึ่งเป็นการตรวจหาชิ้นส่วนพันธุกรรมของไวรัส และมีความแม่นยำ 100% โดยส่งผลการตรวจนี้ไปที่หน่วยชันสูตรโรคสัตว์กลาง คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเราส่งผลตรวจไปเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา
ผลตรวจออกมาเรียบร้อยแล้ว มีดังนี้ 1.ซากแม่สุกร พบผลตรวจเป็นบวก ปริมาณไวรัสมีจำนวนมาก 2.ซากลูกสุกร ผลออกมาเป็นบวก และ 3.น้ำหมัก EM ผลเป็นลบ นี่เป็นหนึ่งตัวอย่างที่เรายืนยันว่า กรมปศุสัตว์ไม่ได้พูดความจริงต่อประชาชน สุกรที่ตายหรือถูกทำลาย เพราะการตื่นตระหนกหรือป้องกันโรคระบาด เป็นสาเหตุจากโรคอหิวาต์แอฟริกาสุกร
นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า ตนในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาปัญหาการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรฯ จะนำข้อมูลเหล่านี้ ประกอบการศึกษาพิจารณา และเรียกหน่วยงานทั้งหมดมาชี้แจง อยากให้เกษตรกรมั่นใจว่า การที่ตรวจเจอหมูตายด้วยโรคอหิวาต์แอฟริกาสุกร ไม่ควรเป็นข้อขัดแย้งของฟาร์มด้วยกันเอง เพราะหลายฟาร์มไม่สบายใจที่มีการเปิดเผยเรื่องนี้
แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่เราต้องรับมือกับโรคนี้อย่างตรงไปตรงมา หมดเวลาซุกทุกอย่างไว้ใต้พรม เพราะจะได้วางแนวทางเพื่อป้องกันโรคนี้ในอนาคต ถ้าเราไม่เริ่มต้นจากการยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่ามีโรคระบาดนี้ในไทย การเยียวยา การปล่อยสินเชื่อ หรือการพัฒนาวัคซีน ก็จะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ตนอยากให้รัฐบาลจริงใจ และอยากให้หน่วยงานที่ปกปิดข้อมูลรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ด้วย