บุญสิงห์ ย้ำ เศรษฐกิจไทยยังร่วมรัฐบาล ชี้อดีต 15 กก.บห. ลาออกไม่ใช่เกมการเมือง ยอมรับ ธรรมนัส มีโอกาสนั่งหัวหน้าพรรค ยันไม่กลับพลังประชารัฐแน่

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 25 พ.ค.2565 ที่รัฐสภา นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) และอดีตนายทะเบียนพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งภายในพรรคว่า พรรคมีปัญหาเรื่องความไม่เข้าใจกัน ซึ่งเป็นปัญหาค่อนข้างรุนแรง ระหว่างพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรค เมื่อกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ทราบเหตุการณ์ ก็หารือร่วมกันว่า หากปล่อยปัญหาให้เนิ่นนานไป จะทำให้พรรคเสียหายและบอบช้ำ กก.บห. 15 คนจาก 22 คน จึงยื่นหนังสือลาออก เพื่อให้สถานะของกก.บห.ทั้งหมดสิ้นสภาพลงตามข้อบังคับพรรค

จากนั้นพรรคจะต้องจัดประชุมใหญ่ภายใน 45 วัน เพื่อเลือก กก.บห.ชุดใหม่ พวกเราคำนึงถึงปัญหาของพรรคว่าจะต้องรีบแก้ไข จัดระบบภายในพรรคใหม่ให้เข้มแข็งมากกว่าเดิม

เมื่อถามว่าอดีตกก.บห. 15 คนที่ลาออกได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส ก่อนหรือไม่ นายบุญสิงห์ กล่าวว่า ไม่ได้คุยทั้งหัวหน้าและเลขาธิการพรรค เราตัดสินใจกันเอง เนื่องจากมีประสบการณ์เคยพบปัญหานี้มาก่อน

เมื่อถามว่าความเห็นที่ไม่ตรงกันคือเรื่องการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ใช่หรือไม่ นายบุญสิงห์ กล่าวว่า พรรคได้แสดงท่าทีชัดเจนแล้วว่าเรายังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยมีส.ส. 18 คน เป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี และยังสนับสนุนในสิ่งที่เกิดประโยชน์กับประชาชน เพื่อขับเคลื่อนบ้านเมืองให้เดินไปข้างหน้าได้ เช่น การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ถือเป็นเรื่องใหญ่ และประชาชนได้ประโยชน์ แม้งบบางส่วนเป็นงบฟุ่มเฟือย ไม่คุ้มค่า ก็ค่อยมาแก้ไข หรือตัดในขั้นตอนแปรญัตติได้ ทั้งนี้ ภาพรวม เราคุยกันว่างบต้องเดินไปข้างหน้า แต่หากมีงบรายการไหนที่ไม่เกิดประโยชน์ และไม่คุ้มค่า ก็ต้องไปพิจารณาตามขั้นตอนของกมธ.

“ยืนยันว่าการลาออกของอดีตกก.บห.ทั้ง 15 คน ไม่ใช่เกมการเมือง แต่เป็นกลไกของพรรค การเกิดความขัดแย้งไม่เป็นอะไร แต่เราต้องพูดคุยกันในพรรค หากนำออกไปสื่อสารข้างนอกแล้ว ผมมองว่าต้องรีบหยุดปัญหา โดยใช้วิธีนี้ที่เป็นกลไกของพรรค” นายบุญสิงห์ กล่าว

เมื่อถามว่าหมายความว่าอดีตหัวหน้าพรรคนำปัญหาของพรรคออกไปพูดข้างนอกก่อน จึงตัดสินใจวิธีนี้ใช่หรือไม่ นายบุญสิงห์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง ตนมองว่าหากเกิดปัญหาต้องเรียกประชุมกก.บห.พรรค เพื่อคุยกัน ซึ่งทุกพรรคมีระบบอยู่ ตนไม่เข้าใจว่าทำไมจึงนำปัญหาขัดแย้งออกไปข้างนอก จนเกิดผลกระทบต่อพรรค

เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพล.อวิชญ์ ตัดพ้อว่าไม่ได้รับความสำคัญและไม่มีอำนาจหรือไม่ นายบุญสิงห์ กล่าวว่า ตั้งแต่ประชุมพรรคครั้งใหญ่ที่ผ่านมาเราก็อยู่ในพื้นที่มาตลอด และจากวันนั้นจนวันนี้ก็ยังไม่มีการประชุม กก.บห.อีก

ส่วนใครเหมาะสมเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น พล.อ.วิชญ์ อาจตัดสินใจอยู่กับพรรคต่อไปก็ได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการประชุมใหญ่ของพรรค ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าร.อ.ธรรมนัส จะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคเองนั้น ก็มีโอกาส อาจจะเป็นพล.อ.วิชญ์ หรือร.อ.ธรรมนัสก็ได้ หรือเป็นคนอื่นก็ได้ ซึ่งมีโอกาสทั้งนั้น ขอให้นำพาพรรคให้เข้มแข็ง ช่วยกันแก้ปัญหาปากท้องประชาชน และตามเจตนารมณ์ของพรรค

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกลับเข้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายบุญสิงห์ กล่าวว่า ตนก็ทราบจากข่าว แต่ยืนยันว่าจะขับเคลื่อนพรรคเศรษฐกิจไทยต่อไป และไม่กลับไปพรรคพลังประชารัฐ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ทำให้พรรคแตก วันนี้เรามีสมาชิกพรรค 2 หมื่นกว่าคน ยืนยันว่าพร้อมทำงานเพื่อบ้านเมือง และสร้างความเข้มแข็งให้พรรคมากกว่าเดิม ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จะยิ่งสร้างพรรคให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น