"ไมโล แห่งโครตอน" : ยอดมวยปล้ำยุคโบราณที่แบกกระทิงมาทั้งตัวและกินเนื้อขู่คู่แข่ง

Home » "ไมโล แห่งโครตอน" : ยอดมวยปล้ำยุคโบราณที่แบกกระทิงมาทั้งตัวและกินเนื้อขู่คู่แข่ง



"ไมโล แห่งโครตอน" : ยอดมวยปล้ำยุคโบราณที่แบกกระทิงมาทั้งตัวและกินเนื้อขู่คู่แข่ง

เทพนิยาย มักจะบอกเล่าเรื่องของมหาบุรุษที่เกิดมาพร้อมกับพละกำลังที่เหนือมนุษย์มนา ฆ่ายักษ์ หักด่านกองทัพด้วยตัวคนเดียว และปลิดชีพอสูรอะไรเทือกนั้น

แต่นี่คือเรื่องจริง โหดจริง ที่มีคนบันทึกไว้ เรื่องราวย้อนไปสมัยที่มนุษย์เริ่มแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกัน.. และเขาคือที่หนึ่งของโลกในด้านศิลปะการต่อสู้ 

ชื่อของเขาคือ “ไมโล” แชมป์มวยปล้ำโอลิมปิกโบราณ 6 สมัยซ้อน 

ยามโหดเขาโหดเหลือเชื่อ และในวันที่เขาตาย.. มันก็ช่างง่ายดายเสียเหลือเกิน ราวกับเป็นหนังตลกเลยทีเดียว

นี่คือเรื่องของ ไมโล แห่งโครตอน สุดยอดนักกีฬา และสุดยอดนักรบ ที่เป็นตัวแทนแห่งความมานะพยายาม ติดตามได้ที่นี่

ตำนานแห่งโครตอน  

650 ปีก่อนคริสตกาล มีเรื่องราวของเมืองเมืองหนึ่งชื่อว่า “โครตอน” เมืองนี้ปัจจุบันอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ทว่า ณ เวลานั้น โครตอน ถือเป็นเมืองอาณานิคมของอาณาจักรกรีกโบราณ 

1

เมืองแห่งนี้มีหน้าที่ส่งเครื่องบรรณาการให้กับกรีก และจุดเด่นที่สุดของพวกเขาไม่ใช่ อาหาร, เครื่องนุ่งห่ม หรือสมบัติแต่อย่างใด เพราะสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของ โครตอน คือ “นักกีฬา” นั่นเอง

ย้อนกลับไปยุคนั้น นักกีฬาก็เปรียบเสมืองกำลังพลของกองทัพ พวกนักกีฬาจะมีร่างกายแข็งแกร่ง ในการลงแข่งขันต่างๆ นักกีฬาเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งชี้แสนยานุภาพของกองทัพกรีก ซึ่งเวทีสำหรับโชว์ของคือการแข่งขันโอลิมปิกนั่นเอง 

นักกีฬาคนไหนที่ชนะในการแข่งขันโอลิมปิกโบราณ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกีฬาเกี่ยวกับการต่อสู้ เขาผู้นั้นจะได้รับการปูนยศและสิทธิพิเศษมากมาย ดังนั้น การเป็นนักกีฬาถือเป็นอาชีพในฝันของชายที่เป็นลูกชาวบ้านแทบทั้งนั้น เพราะถ้าพวกเขาเก่งกีฬา ชีวิตพวกเขาก็เหมือนขึ้นลิฟต์ รวดเดียวได้เป็นคนสำคัญของอาณาจักรราวกับตีตั๋วช้างไปโดยปริยาย

ย้อนกลับไปที่ โครตอน เมืองแห่งนักกีฬา เด็กๆที่เมืองนี้เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ใหญ่โตแข็งแรง ใครที่โดดเด่นกว่าก็จะได้รับการจับตามองและเตรียมส่งไปให้กับอาณาจักรใหญ่ ส่วนคนที่ไม่มีพรสวรรค์นั้นมีให้เลือก 2 ทางคือ ยอมแพ้และประกอบอาชีพตามมีตามเกิด หรือพยายามให้มากเพื่อรอโอกาสครั้งใหญ่มาถึง ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นทั้งหมดของ “ไมโล” 

ไมโล คือเด็กตัวเล็กที่อยากจะเป็นนักกีฬามวยปล้ำเหมือนกับเด็กคนอื่นๆในเมือง และเขาไม่เคยยอมแพ้ ไมโล พยายามฝึกฝนด้วยวิธีต่างๆมากมาย และส่วนใหญ่เด็กคัดทิ้งอย่างเขามักจะถูกหัวเราะเยาะ ซึ่ง ไมโล รู้ดีว่าเขาทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการยอมโดนหัวเราะซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเชื่อมั่นในแนวทางของตัวเอง.. แนวทางการเป็นนักกีฬาของเขาเริ่มจากการ “แบกลูกวัว” หากการคาดเดาไม่คาดเคลื่อน มันคงเปรียบคล้ายกับการยกเวทในยุคโบราณ

ไมโล เริ่มใช้วิธีแบกลูกวัวเพิ่งคลอดขึ้นไว้บนบ่า หลายคนตลก เพราะว่าอุ้มลูกวัวตัวหนักแค่ไม่กี่กิโลกรัมมันจะไปได้อะไรขึ้นมา? แต่ ไมโล คิดไปไกลกว่านั้นเยอะ.. 

เขาเลือกอุ้มลูกวัวเพราะเขาตัวเล็ก และยกไหวแค่นั้น แต่สิ่งสำคัญคือเขาจะแบกมันขึ้นบ่าเดินไปไหนมาไหนด้วยในทุกๆวัน ลูกวัวนั้นเป็นสัตว์ที่โตไว น้ำหนักขึ้นง่าย ดังนั้น หมายความว่าถ้าเขาแบกมันขึ้นบ่าทุกวันๆ ร่างกายของเขาจะแข็งแรงขึ้นตามน้ำหนักของวัวอย่างแน่นอน และ ไมโล แบกวัวอยู่อย่างนั้น เป็นเวลาทั้งหมดถึง 4 ปีเต็มๆ จากลูกวัวกลายเป็นวัววัยเจริญพันธุ์ตัวใหญ่เต็มวัย เช่นเดียวกันกับ ไมโล ที่ตอนนี้เปลี่ยนเสียงหัวเราะกลายเป็นเสียงเงียบกริบเสียแล้ว เพราะร่างกายของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้าม แบบที่ใครก็ยากจะเทียบ 

2

ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งติดต่อกัน 4 ปีเท่านั้น เมนูอาหารแต่ละวันของ ไมโล จัดว่าโหดเข้าขั้นตามขนาดตัวที่ค่อยๆใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ เขากินเนื้อสัตว์ 9 กิโลกรัม, ขนมปัง 9 กิโลกรัม และ ไวน์อีก 10 ลิตรต่อวัน เทียบแคลอรีกับการกินของนักกีฬายุคนี้คงเยอะไม่ต่างกับ ไมเคิล เฟลป์ส เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกสมัยใหม่มากที่สุดตลอดกาล แถมหลังจากแบกวัวและกินอาหารเสร็จ เขาจะไปฝึกมวยปล้ำอีกจนไม่ได้หลับได้นอน 

และสุดท้ายในเมืองโครตอน ก็ไม่มีใครทำให้เขามีรอยขีดข่วนได้อีกต่อไป..

จากนักกีฬาสู่นักรบ 

เมื่อได้เข้ามาเป็นนักกีฬาที่แข่งขันในกีฬาโอลิมปิกโบราณ ไมโล ยังคงแสดงความมีน้ำอดน้ำทนออกมาเสมอ เพราะความร่ำรวยและชื่อเสียงของการเป็นนักกีฬา นอกจากต้องแลกมาด้วยการฝึกแบบเหนือมนุษย์แบบเขาแล้ว เขายังต้องเสียสละ “ช่วงชีวิตของตัวเอง” ด้วย

3

การเป็นนักกีฬาในยุคกรีก มีความเศร้าซ่อนอยู่ในความยิ่งใหญ่ เพราะเหล่านักกีฬาที่จะแข่งขันในโอลิมปิก จะถูกแยกออกจากประชาชนทั่วไปอย่างชัดเจน พวกเขาจะต้องไปฝึกซ้อมเป็นระยะเวลายาวนาน มีข้อห้ามมากมาย เช่นห้ามมีปฏิสัมพันธ์กับคนนอกศูนย์ฝึกอบรม ห้ามมีเซ็กซ์ และก่อนแข่งทุกครั้ง พวกเขาจะต้องเปลือยเปล่าและทาตัวด้วยน้ำมันมะกอก เพื่อทำตัวให้เหมือนกับทวยเทพมากที่สุด 

ไมโล อยู่ในโลกอันเงียบเหงาของนักกีฬากรีกอย่างยาวนาน แต่ก็แลกมากับการเป็นแชมป์มวยปล้ำ 6 สมัยซ้อน ความเก่งกาจของ ไมโล ถูกเล่าขานราวกับปีศาจ หลายคำพูดที่พูดถึงเขา ผู้คนในยุคนั้นจะรอดูการปรากฏตัวของเขาบนเวที เพราะ ไมโล จะทำการกินเลือดและเนื้อวัวสดๆเพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้ จากนั้นจะเริ่มโชว์ความแข็งแกร่งไล่ต้อนแบบไม่มีออมมือ ว่ากันว่าเขาเคยบดขยี้คู่ต่อสู้จนตายคามือ และกินเนื้อคู่แข่งของเขามาแล้วอีกด้วย

นั่นคือเรื่องราวของการเป็นนักกีฬา ซึ่ง ไมโล ไม่เคยได้หยุดแค่นั้น เพราะยศฐาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมู่ชายลูกชาวบ้าน คือการได้เป็นแม่ทัพ หรือเป็นทหารในสังกัดของอาณาจักรกรีกนั่นเอง

ด้วยความแข็งแกร่งในด้านมวยปล้ำ การปะทะ 1-1 ไม่มีใครเอาเขาลง อีกทั้งในความเงียบเหงาของชีวิตนักกีฬา ไมโล มีเพื่อนแท้คนเดียวคือ อริสโตเติล นักปราชญ์และปรัชญาชื่อดังของโลก โดยความสัมพันธ์เริ่มขึ้นจากการที่ ไมโล ช่วย อริสโตเติล จากการโดนเสาหินหล่นทับ จากเหตุการณ์วิหารศักดิ์สิทธิ์ถล่มนั่นเอง

ความแข็งแกร่งและความมีเส้นสาย ทำให้ ไมโล ได้เข้าไปเป็นทหารในกองทัพ และไต่ระดับจากความโหดจนถูกส่งไปเป็นแม่ทัพของโครตอน บ้านเกิดของเขาเอง ซึ่งบันทึกโบราณของ Diodorus (XII, 9) บอกกล่าวความเทพของกองทัพโครตอนในยุคที่ ไมโล เป็นแม่ทัพว่า 

“ทหารโครตอน 1 แสนคน สามารถรับมือกับทหารจากไซบาไรท์ ได้ถึง 3 แสนคน เมื่อข้าศึกเข้าประชิดเจ้านักกีฬาที่ชื่อว่า ไมโล สามารถเอาชนะได้ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพอันยิ่งใหญ่ ก่อนที่เขาจะยืนปะทะกับทหารคู่ต่อสู่ที่เรียงหน้าเพื่อเป็นคู่มือของเขาโดยไม่หยุดหย่อน”

สงครามครั้งนั้น โครตอน เป็นฝ่ายชนะด้วยกำลังที่น้อยกว่าถึง 3 เท่า และจากนั้นชื่อเสียงของ ไมโล ไม่ได้หยุดแค่ ไมโล แชมป์โอลิมปิก 6 สมัยซ้อนอีกต่อไป เขาถูกเรียกว่า “ไมโล แห่งโครตอน” โดยมีการยกเอาวีรกรรมครั้งนี้ไปเปรียบเทียบกับตำนานกรีกโบราณอย่าง เฮอร์คิวลีส เลยทีเดียว

ความตายของยักษ์ไมโล

หากเรื่องนี้เป็นการแต่งเรื่องขึ้นมา ตอนจบของ ไมโล ออฟ โครตอน คงจะสวยงามแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เขาอาจจะกลายเป็นราชา หรือประสบความสำเร็จในบั้นปลายแบบไหนสักทาง แต่เปล่าเลย เรื่องเล่าความตายของ ไมโล นั้นมันแปลกจนค่อนไปทางตลกเลยด้วยซ้ำไป

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ไมโล ต้องการขอลูกสาวของ พีธาโกรัส แต่งงาน และนักคำนวณในตำนาน อยากจะขอดูความเหมาะสมของ ไมโล ในวัยแก่ชรา ด้วยการทดสอบพลังร่างกายว่าเขาเก่งอย่างคำเล่าลือหรือไม่ โดยการให้ ไมโล แห่ง โครตอน ฉีกซากตอไม้ที่ตายแล้วด้วยมือเปล่า 

ไมโล ในวัยชราสิ้นสภาพนักมวยปล้ำที่เก่งที่สุดในกรีก กับตอไม้ต้นนั้น เขาพยายามฉีกมันด้วยการเอามือยัดไปที่รอยแยกของต้นไม้ ทว่าที่สุดแล้วเขาอ่อนแรงเกินกว่าจะฉีกมันขาดด้วยมือ และต้นไม้นั้นกลับพันแขนของเขาจนไม่สามารถขยับไปไหนได้..

คนเดียวในป่าใหญ่กับการติดอยู่ในตอไม้ที่ตายแล้ว ไมโล ออกไปไหนไม่ได้ และเมื่อตกดึกเขากลายเป็นเป้าหมายและอาหารของฝูงหมาป่าที่หิวโหย.. ปิดตำนานนักมวยปล้ำและแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อ

4

อ่านมาถึงตอนนี้ เชื่อว่าหลายคนคงไม่เชื่อกับสิ่งได้กล่าวถึง ซึ่งมันก็ไม่แปลกนัก แม้บทความจะถอดมาจากบันทึกของกรีก แต่ด้วยความเวอร์วังอลังการและความตายที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ยิ่งทำให้เรื่องนี้มีโอกาสที่จะกลายเป็นเรื่องที่ถูกใส่สีตอกไข่ให้เรื่องราวมันสนุกขึ้นกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ไม่มีการอ่านสิ่งใดที่ไร้ประโยชน์ เรื่องราวของ ไมโล ตั้งแต่ย่างก้าวแรกที่เติบโตในเมืองโครตอน บอกอะไรกับเราบางอย่าง..  

อย่างแรกคือ เมื่อคุณพยายามทำอะไรที่แปลกประหลาดจากที่คนอื่นๆทำ พวกเขาจะเริ่มหัวเราะเยาะคุณในความต่างนั้น แต่ถ้าคุณมุ่งมั่นและเชื่อมั่นมากพอจนทำสิ่งนั้นสำเร็จ เสียงหัวเราะจะกลายเป็นคำสรรเสริญ ดังเช่นเรื่องที่ ไมโล แบกวัวจนได้ร่างกายที่ไร้เทียมทาน

ไมโล ได้ทำให้เราเห็นอะไรบางอย่าง เขาเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆแต่ทำมันอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเขาสามารถทำสิ่งใดและผ่านบททดสอบไปได้แล้ว เขาจะหาความท้าทายใหม่เพื่อให้ตัวเองพัฒนาขึ้นอีกขั้นในทันที เขาค่อยๆก้าวเข้าไปหาความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ และทำมันโดยไม่เคยยอมแพ้ ความสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม 

5

และที่สุดแล้วเรื่องของ ไมโล ยังได้แง่คิดจนถึงขั้นลมหายใจสุดท้ายของชีวิตเขา.. จงประเมินตัวเองให้ดีก่อนจะทำอะไร ความมุ่งมั่นคือสิ่งที่ดี แต่ถ้ามุ่งมั่นทำอะไรสักอย่างโดยไม่มีแบบแผน ก็อาจจะกลายเป็นผลร้ายได้ ดังเช่นความตายของ ไมโล แห่งโครตอน ที่ไม่ยอมแพ้สังขาร จนต้องตายอย่างน่าอนาถใจ

สุดท้ายเครื่องดื่มมอลต์ รสช็อคโกแลต ยี่ห้อ ไมโล ที่โฆษณาตัวเองว่าเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้เด็กๆมีร่างกายแข็งแรงนั้น ก็ได้แรงบันดาลใจจาก ไมโล แห่งโครตอน คนนี้นี่เอง.. ไม่ว่าคุณจะเชื่อเรื่อง ไมโล แห่งโครตอน หรือไม่ เราหวังว่าคุณจะได้อะไรบางอย่างจากเรื่องทั้งหมดที่กล่าวมานี้  

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ