ไฟไหม้ห้องแถวลาม 3หลังวอด ตาวัย80 อุ้มคู่ชีวิตหนีตาย ร่ำไห้โฮมองบ้านถูกไหม้วอด เผยนาทีเกิดเหตุ เศร้าไม่เหลืออะไรแล้ว

วันที่ 19 ส.ค. 65 ร.ต.อ.วินิจ สิมะลิ สว.สอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องแถว ภายในชุมชนย่อยตรอกเมตตา ซ.ตรอกเมตตา 1 ต.ตลาด อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยเพลิงกำลังไหม้ลุกลามไปยยังบ้านเรือนประชาชนข้างเคียง จึงประสานเจ้าหน้าที่งานป้องกัน เทศบาลเมืองจันทบุรี นำรถดับเพลิงรถดับเพลิงเข้าช่วยเหลือ ก่อนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ร่วมเดินทางตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่าต้นเพลิงลุกไหม้มาจากห้องแถวเลขที่15 ด้านหลังโรงงานขนมปังภายในซอยตรอกเมตตา 1 ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในบ้าน โดยบ้านต้นเพลิงอยู่ในซอยที่คับแคบ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปถึงด้านใน แต่ยังสามารถนำสายน้ำเข้าไประดมฉีดน้ำได้ ตรวจสอบด้านใน พบเพลิงกำลังไหม้รุนแรง และลุกลามไหม้ห้องแถวติดกัน อีก 2 หลัง

ขณะผู้อาศัยห้องแถวที่ถูกไฟลุกลามไหม้ เบื้องต้นเป็นคุณตาสูงวัย ได้พยายามอุ้มยายวัย 80 ปี ภรรยาคู่ชีวิตที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ วิ่งหนีตายกันออกมานอกบ้านได้ทัน พร้อมกับพากันกอดคอร้องไห้โฮ เมื่อหันกลับไปดูพบว่าไฟไหม้บ้านวอดไปเกือบทั้งหลังแล้ว โดยใช้เวลานานกว่าชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบมีห้องแถวถูกเพลิงไหม้ทั้งหมด 3 หลัง ซึ่งอยู่ติดกัน

นางศรัญญา อายุ 43 ปี ภรรยาเจ้าของบ้านต้นเพลิง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้พาคนในครอบครัวไปหาหมอที่โรงพยาบาล จึงไม่มีใครอยู่ในบ้าน พร้อมยืนวันว่าก่อนออกไปได้ทำการปิดไฟดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกไว้ทั้งหมด ไม่ได้เปิดแก๊ส หรือ กระทำอย่างอื่นที่จะเป็นสาเหตุเกิดเพลิงไหม้ทิ้งไว้ จึงไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้

ด้าน นายบุญมี พวงนอก คุณตาอายุ 80 ปี เจ้าของห้องแถวที่อยู่ติดกับห้องต้นเพลิง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนั่งพักผ่อนอยู่หน้าห้อง ส่วนยาย อายุ 80 ภรรยาที่อยู่ในภาวะป่วยโรคประจำตัวช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้นอนพักผ่อนอยู่ในห้องแถว ต่อมาได้เห็นกลุ่มควันไฟและเปลวเพลิง จึงวิ่งเข้าไปดูก็พบว่าบ้านล็อกและด้านในมีไฟลุกไหม้รุนแรง และกำลังลุกลามไหม้ห้องตัวเองที่ติดกัน จึงรีบเข้าไปในบ้านและอุ้มภรรยาหนี เมื่อหันกลับไปดูก็พบว่าบ้านตัวเองถูกเพลิงไหม้ทั้งหลังแล้ว

อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ยังไม่แน่ชัดอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของทางตำรวจ ทั้งนี้จะได้ประสาน ตำรวจสืบสวน และเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเก็บวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ในการสรุปสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป