ซีเกมส์ – เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่โรงแรมการ์เดน ซิตี้ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานสหพันธ์กีฬาซีเกมส์, วัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกกัมพูชา, นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร, นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมแถลงข่าวการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ.2568 ของประเทศไทย
ดร.ก้องศักดกล่าวว่า ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์ครั้งหน้า ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม พ.ศ.2568 โดยมี 3 จังหวัดเป็นเจ้าภาพร่วม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, สงขลา ซึ่งทั้งสามจังหวัดเป้นจังหวัดใญ่ของไทย มีความพร้อมทั้งเรื่องของสถานที่และบุคลากรในการเป็นเจ้าภาพ โดยที่ไม่ต้องสนามหรือหมู่บ้านนักกีฬาขึ้นมาใหม่ เพียงแต่ปรับปรุงให้มีความพร้อมมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น การเดินทางสะดวกในทุกเมืองเจ้าภาพ เชื่อว่าการกระจายแข่งขันในหัวเมืองใหญ่ระดับนี้ จะทำให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง นอกจากนั้นยังจะไม่มีการกระจายออกไปกว้างกว่านี้ ให้ 3 จังหวัดเป็นเจ้าภาพหลัก เพื่อไม่ให้กระทบการเดินทางของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวอีกว่า สำหรับชนิดกีฬาที่จะบรรจุจะต้องเน้นไปที่กีฬาสากลที่มีในโอลิมปิกเกมส์และเอเชี่ยนเกมส์เป็นหลัก ส่วนกีฬาพื้นบ้าน ธรรมนูญของสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ได้มีการระบุใหม่เอาไว้แล้วว่าจะจัดได้เพียง 4 ชนิดกีฬา ชนิดละ 8 เหรียญทอง ซึ่งจะไม่เกิน 32 เหรียญทอง ทำให้มาตรฐานในการแข่งขันจะสูงขึ้น มีความน่าสนใจมากขึ้น ส่วนเรื่องการถ่ายทอดสดการแข่งขัน จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมตามปกติ คือ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ(345,000 บาท) จากทั้ง 10 ชาติ แต่จะไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีการทำกัน
อย่างไรก็ตามการถ่ายทอดสดจะครอบคลุมชนิดกีฬาให้มากที่สุด เพราะที่กัมพูชาครั้งนี้ ถ่ายทอดสดเพียง 16 กีฬาเท่านั้น ทำให้การรับชมของแฟนกีฬาอาจจะไม่ครบถ้วน ซึ่งไทยจะพยายามทำให้ได้มากที่สุด “เรื่องที่พักและอาหารที่กัมพูชาไม่เก็บค่าใช้จ่ายตรงนี้จากทุกชาติในครั้งนี้ ที่ตก 50 ดอลลาร์ต่อคนต่อวัน เราคงไม่สืบต่อแนวทางนี้ เพราะที่ผ่านมาซีเกมส์มีมาตรฐานเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงต้องทำตามมาตรฐานเหมือนครั้งก่อนๆ” ดร.ก้องศักดกล่าว