ไต้หวัน ยึดผง “เค” จากไทย ข้างในแผ่นไม้บนพื้นตู้คอนเทนเนอร์ นำเข้ากระดาษ A4
วันที่ 26 ต.ค. ตำรวจ ไต้หวัน ทะลายเครือข่ายยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้าผงเคตามีน (ยาเค) จากประเทศไทย โดยใช้สินค้านำเข้าบังหน้าอย่าง “กระดาษ A4” และนำมากลั่นสกัดและแปรรูปเพื่อพยายามขายในไต้หวัน ตำรวจทะลายบ้านที่เป็นโรงงานผลิตเคตามีน จากนั้น ยึดตู้คอนเทนเนอร์ที่เต็มไปด้วยผงเคตามีนที่ถูกซ่อนในช่องระหว่างแผ่นไม้บนพื้นตู้คอนเทนเนอร์ ตำรวจยึดเคตามีนจากทั้ง 2 แห่ง ปริมาณสุทธิ 367 กิโลกรัม และยาเสพติดอื่น ด้วยมูลค่าตลาดสุทธิราว 660 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ราว 775 ล้านบาท)
รายงานระบุว่า เมื่อเดือนมิ.ย. 2565 กองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมนครนิวไทเป ทางเหนือของไต้หวัน พร้อมสถานีตำรวจเขตรุ่ยฟาง นครนิวไทเป สืบสวนคดียาเสพติด และสืบต้นตอกลับไปบ้านหลังหนึ่งในเมืองโต่วหนาน เทศมณฑลหยุนหลิน ทางตะวันตกของไต้หวัน พบว่ามีโรงงานผลิตยาเสพติดในพื้นที่ดังกล่าว และแก๊งยาเสพติดเดียวกันเกี่ยวข้องการผลิต ขนส่ง และขายยาเสพติด
หลังใช้เวลาครึ่งปีที่ผ่านมาค้นหาและรวบรวมหลักฐาน กองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมนครนิวไทเป พร้อมกองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมเทศมณฑลหยุนหลิน และกองกำลังตำรวจอื่นๆ ของภาคใต้ของไต้หวัน จึงทะลายโรงงานผลิตยาเสพติด ยึดเคตามีน 112 กิโลกรัม, แอมเฟตามีน 46.72 กรัม และเครื่องมือผลิตยาเสพติดจำนวนหนึ่ง และจับกุมผู้เชี่ยวชาญการผลิตยาเสพติด 4 คน หนึ่งในนั้นคือ นายโจว อายุ 34 ปี
ต่อมา วันที่ 12 ก.ย. ชุดปฏิบัติการได้รับแจ้งว่า แก๊งยาเสพติดจะนำเข้ากระดาษ A4 อีกครั้ง ในวันที่ 12 ก.ย. ด้วยความร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจท่าเรือนครจีหลง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน และด่านศุลกากรนครจีหลง ส่งสุนัขดมกลิ่นยาเสพติด “เควียนา” (Quiana) เพื่อสืบสวน เควียนาเดินเข้าตู้คอนเทนเนอร์ว่างเปล่า หลังสินค้านำเข้ากระดาษ A4 ถูกเคลื่อนย้ายออกไปหมดแล้ว เพื่อดมกลิ่นและนั่งลงทันที เป็นการส่งสัญญาณว่ามียาเสพติดที่ถูกซ่อนในตู้คอนเทนเนอร์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ไม่มีสินค้าใดในตู้คอนเทนเนอร์เลย ยกเว้นแผ่นไม้บนพื้นตู้คอนเทนเนอร์ ชุดปฏิบัติการจึงแงะแผ่นไม้ขึ้นมาและพบผงเคตามีนจำนวนมากที่ถูกห่อด้วยถุงและถูกซ่อนข้างในช่องว่างระหว่างแผ่นไม้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์โกยผงเคตามีนข้างในช่องว่างระหว่างแผ่นไม้ นำมาใส่ถุงเป็นจำนวน 18 ถุง น้ำหนักสุทธิราว 255 กิโลกรัม
จากนั้น ชุดปฏิบัติการขอให้ศาลเขตหยุนหลินอนุมัติหมายค้นอาคารโรงงานริมถนนหมินยู่ เมืองเป่ย์กัง เทศมณฑลหยุนหลิน จับกุมผู้ต้องหาอีก 7 คน ในจำนวนนี้มี นายซู อายุ 29 ปี ผู้รับสินค้า และจับกุมผู้ต้องหาอีก 2 คน ในจำนวนนี้มี นายหู อายุ 56 ปี ผู้ดูแลบริษัทตู้คอนเทนเนอร์นำเข้า ในอาคารบริษัทริมถนนหนานฮวา เขตเถาหยวน นครเถาหยวน
รายงานระบุว่า แก๊งยาเสพติดแบ่งการทำงานละเอียดเป็นอย่างดี โดย นายหู เป็นผู้จัดตั้งบริษัทบังหน้าเพื่อลักลอบขนเคตามีนคุณภาพต่ำจากประเทศไทย โดยสำแดงสินค้านำเข้าเป็น “กระดาษขาว A4” จากนั้น ผู้ผลิตยาเสพติด 4 คน รวมถึง นายโจว เป็นผู้กลั่นสกัดและแปรรูปยาเสพติดเพื่อพยายามขายภายในไต้หวัน ส่วน นายซู และคนอื่นๆ เป็นผู้รับผิดชอบในการขนส่งและรับสินค้า
คดีทั้งหมดถูกส่งไปสำนักงานอัยการเขตหยุนหนินเพื่อสอบสวนตามกฎหมายป้องกันและควบคุมยาเสพติด ในปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดครั้งนี้ ผู้ถูกจับกุมมีทั้งหมด 13 คน ในจำนวนนี้ 8 คน ศาลตัดสินฝากขังและห้ามใครเข้าพบ
ระหว่างการสอบสวน นายโจวสารภาพว่าเป็นผู้ผลิตยาเสพติด แต่นายซูและนายหูให้การปฏิเสธ บอกว่าไม่ได้ขนส่งและลักลอบนำเข้ายาเสพติด ทว่าคำให้การไม่น่าเชื่อถือ หลังการสอบสวน ตำรวจนำตัวนายโจว นายซู และนายหู และผู้ต้องหาคนอื่นๆ ขึ้นศาลตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดและการลักลอบขนยาเสพติด
ต่อมา เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ผู้ผลิตยาเสพติด 4 คน รวมถึงนายโจว สำนักงานอัยการเขตหยุนหลินสั่งฟ้องในข้อหาผลิตยาเสพติด ขณะที่นายหู และนายซู ศาลเขตหยุนหลินกำหนดวงเงินประกันตัวเป็นจำนวนสูงถึงคนละ 100,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (117,000 บาท)
ทั้งนี้ นายโจวเคยถูกตัดสินว่าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด การลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมาย และอื่นๆ มากมาย และเรียนรู้วิธีการผลิตยาเสพติดเป็นอาชีพ และร่วมกับนายซูและนายหูก่อตั้งเครือข่ายยาเสพติดทางใต้ของไต้หวัน ตั้งแต่การผลิตถึงการขนส่งและการขายในคราวเดียว สร้างความหายนะในนครไถหนานและนครเกาสง อาชีพการผลิตยาเสพติดของนายโจวได้รับการขนานนามเป็น “Breaking Bad” เวอร์ชั่นไต้หวันเลยทีเดียว (Breaking Bad หรือในภาษาไทย “ดับเครื่องชน คนดีแตก” เป็นละครชุดโทรทัศน์ดรามาอาชญากรรมของสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2551)
นายโหว โหย่ว-อี๋ นายกเทศมนตรีนครนิวไทเป ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว กรมตำรวจนครนิวไทเปยึดเฮโรอีนอัดแท่ง 1,172 แท่ง ที่ถูกซุกซ่อนในร่องไม้จากประเทศไทย นับเป็นคดียาเสพติดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของไต้หวัน และในปีนี้ กรมตำรวจนครนิวไทเปยึดยาเสพติด (เคตามีน 367 กิโลกรัม) อีกครั้ง
ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจนครนิวไทเป หวง ซง-เหริน กล่าวว่า หนทางเดียวที่จะต่อสู้กับอาชญากรรมยาเสพติดคือทำงานด้วยความพากเพียรอย่างต่อเนื่องและความพยายามอย่างไม่ลดละเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดจำนวนมหาศาลไหลบ่าเข้าสู่ตลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าการผลิตยาเสพติดจะมีผลกำไรมหาศาล แต่ตำรวจจะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อสร้างเครือข่ายปราบปรามยาเสพติดอย่างใกล้ชิด และพยายามทำให้ประสิทธิภาพในการต่อต้านยาเสพติดมีความแข็งแกร่งที่สุด เพื่อบรรลุเป้าหมายเชิงนโยบายเพื่อสืบเสาะหาแก่นแท้ของยุทธศาสตร์การปราบปรามยาเสพติดรุ่นใหม่ และปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน
ที่มา: ไชน่าไทม์ ลิเบอร์ตีนิวส์ และ ทีวีบีเอส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ไต้หวันยึด “เฮโรอีนบริสุทธิ์” 6 พันล้านบาท ซุกไม้จากไทย หัวหน้าแก๊งเผ่นไปจีน