ลูกชาย โอนเงินให้แม่ 4 หมื่นทุกเดือน แต่พอตายบัญชีไม่มีเงิน ตรวจเจอชื่อ “ผู้รับผลประโยชน์” เสียใจแทบทรุด
เรื่องราวของ “นายเหลา” ชายชาวจีนอายุ 48 ปี ได้รับการแชร์อย่างกว้างขวางในชุมชนออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Toutiao เมื่อเขาโอนเงินให้ผู้เป็นแม่ใช้จำนวนไม่น้อยในแต่ละเดือน อย่างไรก็ดี หลังจากผู้เป็นแม่เสียชีวิตแล้ว เขากลับพบว่าในบัญชีธนาคารไม่มีเงินอยู่เลย เนื่องจากถูกโอนไปให้ “ผู้รับผลประโยชน์” ซึ่งไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ยิ่งเมื่อเบื้องหลังสถานการณ์ของแม่เฒ่า ก็ทำชาวเน็ตให้ทุกคนรู้สึกเสียใจและอกหัก
นายเหลา เล่าว่า เขาเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัวชาวนา อาศัยอยู่ในกวางสี ประเทศจีน ชีวิตแค่พอมีกินมีใช้ เมื่ออายุได้ 10 ขวบ พ่อของเขาเสียชีวิตด้วยอาการป่วยหนัก จากนั้นแม่และลูกต้องพึ่งพาอาศัยกัน ผู้เป็นแม่สัญญากับตัวเองว่าจะทำงานอย่างหนัก เพื่อให้มีเงินมาส่งเสียเลี้ยงดูและมอบการศึกษาให้ลูกชาย เพื่อเติบโตกลายเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อสังคม
ลูกชายเองก็ไม่ทรยศต่อการเลี้ยงดูของแม่ เมื่ออายุ 18 ปี เขาประสบความสำเร็จในการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในมณฑลกวางตุ้ง ต่อมาก็ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเอ หน้าที่การงานก็ยังคงราบรื่นและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่เพียงแต่ซื้อบ้านและรถยนต์ให้ตัวเองเท่านั้น แต่ยังช่วยเหลือครอบครัวและญาติที่อยู่รอบตัวด้วย
แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะตอบแทนคุณแม่ โดยการช่วยสร้างบ้านขนาดกว้างขวางในชนบท และสร้างร้านขายของชำเล็กๆ เพื่อให้แม่ไม่ต้องทำงานหนัก และเพื่อบรรเทาความเหงา ไม่เพียงเท่านั้น ทุกเดือนเขาจะให้เงินแม่ใช้จ่าย 8,600 หยวนด้วย (ประมาณ 43,000 บาท)
ความสำเร็จของลูกชายของเธอเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนเป็นแม่ แต่ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับระยะห่างระหว่างแม่และลูกชายที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาลูกชายมีงานยุ่งจึงไม่ค่อยได้กลับบ้านเยี่ยมแม่ เฉพาะช่วงตรุษจีนเท่านั้นที่เขาจะสามารถกลับไปบ้านเกิดได้ไม่กี่วัน หลายครั้งที่แม่โทรถามสารทุกข์สุขดิบพูดได้ไม่กี่คำก็ต้องรีบวางสายไป
- ลูกสาวเอะใจ พ่อออกจากบ้าน “เวลาเดิม” เปื้อนโคลนกลับมาทุกวัน แอบตามไปดูร้องไห้โฮ
- ลูก 4 ขวบแอบหยิบขนม ซุปเปอร์มาร์เก็ตปรับ 10 เท่า แต่แม่ “ไม่จ่าย” เหตุผลโดนใจทุกคน!
เมื่อรู้ว่าลูกของเธอมีงานยุ่งแม่ก็ไม่มีใจที่จะรบกวน ในชนบทนอกจากดูแลร้านขายของชำ และทำอาหารทานเอง 3 มื้อต่อวันแล้ว นางเหลาก็ทำเพียงแค่เดินเล่นรอบๆ บ้านเท่านั้น เนื่องจากเนื่องจากเจ็บขาเจ็บจึงไม่ค่อยไปเยี่ยมญาติๆ ที่อาศัยอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กม. ดังนั้น เมื่อเธอรู้สึกเบื่อหรือเหงา จึงเลือกที่จะไปเยี่ยมเยี่ยนบ้านของนางหวัง (นามสมมุติ) ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 หลัง
เนื่องจากสถานการณ์ของนางหวังคล้ายคลึงกับตนเองในอดีต หลังจากสามีของเธอเสียชีวิต เธอเลี้ยงดูลูกชายวัย 6 ขวบเพียงลำพัง มีสถานการณ์ที่ยากลำบากต้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ไม่มีเวลาดูแลลูกมากนัก ดังนั้น เพื่อรู้สึกปลอดภัยหลังจากลูกชายเลิกเรียนในทุกวัน จึงมักจะส่งไปบ้านของนางเหลาเพื่อขอให้ช่วยดูแลเขา
วันหนึ่งเพื่อนบ้านพบนางเหลานอนหมดสติอยู่กลางสนามหญ้าจึงพานางส่งโรงพยาบาลทันที แพทย์บอกว่าเนื่องจากอายุที่มากขึ้น สุขภาพก็ถดถอยลงทุกวัน เป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะมีชีวิตอยู่ และเพียง 1 เดือนต่อมา เธอก็เสียชีวิตลง การจากไปทำให้ลูกชายเสียใจอย่างยิ่ง
หลังจากงานศพ ขณะจัดข้าวของของแม่ นายเหลาพบว่าไม่มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีธนาคารของแม่เลยแม้แต่หยวนเดียว เมื่อไปธนาคารเพื่อตรวจสอบจึงพบว่าแม่ได้ทำเรื่องเพื่อโอนเงินที่เหลือในบัญชีธนาคาร เข้าไปสมุดออมทรัพย์ในนามของ “คนแปลกหน้า” ที่เขาไม่เคยรู้จักชื่อมาก่อน เมื่อสอบถามต่อจึงพบว่าเป็นบุตรชายวัย 6 ขวบของนางหวัง
ต่อมา หลังจากทราบสถานการณ์ที่ยากลำบากในครอบครัวของนางหวัง และความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างแม่กับลูกชายตระกูลหวังแล้ว นายเหลาก็ค่อยๆ เข้าใจความรู้สึกแม่ของตนเองที่ล่วงลับไป เขาโทษตัวเองที่ไม่ได้ใช้เวลากับแม่มากนัก รู้สึกเสียใจที่ทิ้งเธอไว้ตามลำพังโดยไม่มีใครดูแลเธอเมื่อเธอแก่ตัวลง