ใบตองแห้ง – ลูกโป่งใกล้แตก

Home » ใบตองแห้ง – ลูกโป่งใกล้แตก


ใบตองแห้ง – ลูกโป่งใกล้แตก

อาสาฬหบูชา เข้าพรรษา รัฐบาลแถมวันหยุดให้ 1 วัน เป็น 5 วัน ปลายเดือนยังมีวันเฉลิมฯ เพิ่มวันศุกร์หยุด 4 วัน

นี่ไง วิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ หวังให้คนท่องเที่ยวใช้จ่าย ตามแคมเปญเที่ยวไทย “ยิ่งไปยิ่งให้ ยิ่งสุขใจกว่าที่เคย” คือให้คนชั้นกลางในเมืองไปช่วยซื้อของพ่อค้าแม่ค้าต่างจังหวัด แล้วจะมีความสุขจากการให้ เหมือนได้ทำบุญผู้ตกทุกข์ได้ยาก

ถามจริง ใครมีเงินมีเวลาไปเที่ยวบ้าง เอกชนที่ไหนหยุด 9 วัน มีแต่ข้าราชการรัฐวิสาหกิจ สมแล้วที่งบ 40% เป็นงบเงินเดือนสวัสดิการ ประเทศนี้มีข้าราชการไว้ใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจไทยพึ่งการท่องเที่ยว ชิคๆ ชิลๆ ฟินๆ แบบคนชั้นกลางไปกินสเต๊กแซลมอนที่เขาค้อ ซื้อบัวหิมะม้งกลับมาโลนึง ดีต่อโลกดีต่อใจ หรือเซลฟี่ร้านกาแฟ 30 ร้านต้องไปให้ได้ก่อนเจ๊ง-เอ๊ย ก่อนตาย (โทษที) แต่ละแห่งไม่ได้ลงทุนแค่ขายกาแฟ ค่าตกแต่งทั้งภายนอกภายในหลายล้าน สิบกว่าปีที่ผ่านมา ร้านกาแฟน่าจะเกิน 1 ใน 3 ทิ้งร้าง ธุรกิจตกแต่งกำไร

ร้านสเต๊กอันดับหนึ่งในเว็บแนะนำ มักไม่ใช่ร้านอร่อยสุด รสชาติ A- B+ แต่ตกแต่งร้านให้น่าเช็กอิน คนรีวิวเห็นร้านสวยก็แห่ตามกัน หมดยุคร้านอร่อยราคาประหยัด ไม่ง้อลูกค้าต้องมาเข้าคิว โต๊ะเก้าอี้คร่ำคร่า เว้นแต่จะแกล้งทำเป็นวินเทจ

นี่สะท้อนเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน หมุนอยู่บนมูลค่าส่วนเกินเหมือนอาหาร สิ่งที่ประชาชนในประเทศยากจนต้องการคืออาหารครบหมู่ หรือแค่ทำให้ท้องอิ่ม แต่คนชั้นกลางขึ้นไป ต้องการทั้งรสชาติ สีสัน สะดวกสบาย หรือมีแบรนด์ เช่นได้ดาวได้รีวิวได้ชิมฝีมือเชฟชื่อดัง (ต้องชิมให้ได้ก่อนตาย)

มูลค่าส่วนเกินปั่นเศรษฐกิจโลกให้หมุน ไม่ใช่แค่ผลิตปัจจัยสี่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค อีกต่อไป โดยเฉพาะเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ ซึ่งเหลื่อมล้ำลิบลิ่ว ธุรกิจบริการ ความพึงพอใจ ถูกสเป๊กถูกใจ เรียกมูลค่าเท่าไหร่ก็ได้ เหมือนคนต่อราคาผัก 3 กำ 10 แต่ไม่ลังเลซื้อสตาร์บัคส์

ปัจจัยสี่อาจยังใช่ก็ได้ ถ้ามองแบบตลกร้าย อาหารหมาแมวแพงกว่าอาหารคน พาแมวไปหาหมอ แพงกว่างบบัตรทองต่อหัวต่อปี

แมวหายให้สามแสน คนค่าแรงสามร้อยกว่าทิ้งงานมาแห่ตามหาแมว แถวบ้านติดป้ายนกหายให้ห้าหมื่น เห็นแล้วขำขื่น คนงานที่เพิ่งลาบนกเมื่อคืน คงอยากเอาหัวโขกเสา คนบ้านนอกเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวรักเมตตาให้อาหาร แต่ถ้ามันป่วยมันสูญหายก็ทำใจ สัตว์กินได้ถ้าบินผ่านว่ายผ่าน ก็ถือเป็นลาภลอย

เราอยู่ในโลกเหลื่อมล้ำ ที่ถ่างกว้างจนบางครั้งก็ไม่รู้ตัว และไม่สามารถทำลายความเหลื่อมล้ำ กลับต้องเอามาปั่นจีดีพี แบบรัฐบาลออกวีซ่าให้ผู้มีความมั่งคั่งสูงพำนักเมืองไทย เพื่อให้มาใช้จ่าย แล้วคนไทยจะได้ค่าตอบแทนจากอาชีพบริการ

โลกวันนี้ถ้าคุณใช้ชีวิตสมถะ ไม่ใช้จ่าย ไม่ใช้ชีวิตแบบมีรสนิยม คุณจะไม่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ทุกครั้งที่ซื้อผักมาผัดกินเองไม่ไปนั่งร้านอาหาร คิดคำนวณได้ว่า ส่วนต่าง 100-30 คือค่าสถานที่ค่าแรงค่าแวต+เซอร์วิสชาร์จ และกำไร ที่จะหมุนไปต่ออีกหลายรอบ

ชีวิตที่ไม่เสริมแต่งไม่ใส่แบรนด์เนม ไม่กินถั่งเช่าโสมเกาหลี ไม่ใช้ครีม เมื่อก่อนภูมิใจด้วยว่าไม่เคยเหยียบคลินิกศัลยกรรม แต่ตอนหลังภูมิใจไม่ได้ เดี๋ยวโดนข้อหาบูลลี่คนทำศัลยกรรม (โลกสมัยนี้อยู่ยาก)

ชีวิตแบบนี้ไม่สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ ในมุมกลับกัน เศรษฐกิจวันนี้ก็ไม่อยู่บนความจำเป็นของชีวิต แต่อยู่บนความพึงพอใจ เช่นใครว่าคนไทยจน ทำไมมีเงินซื้อบัตรแดงเดือด 15,000-20,000 บาท

ในโลก Disrupted การผลิตจริงกำลังจะล้มละลาย แต่ตลาดเก็งกำไรสวนทางกัน หุ้นปั่น คริปโตปั่น ยังงงไม่หายทำไมต้องซื้อเครื่องขุดคริปโต ขุดแล้วได้ประโยชน์อะไรกับโลกมั่ง

ในหนังวิกฤตซับไพรม์ Margin Call หัวหน้านักวิเคราะห์หุ้นรำพึงว่า เมื่อก่อนเขาเป็นวิศวกรสร้างสะพาน ช่วยคนลดเวลาเดินทางเป็นชั่วโมงๆ แต่ไม่รู้ว่าการมาเป็นนักวิเคราะห์หุ้น (ซึ่งได้เงินหลายเท่า) ทำประโยชน์อะไรให้โลกบ้าง

เป็นคำถามสังคมนิยมไปหน่อย ไม่สอดคล้องกลไกตลาด ซึ่งหมุนโลกจากกำไร จนไม่ต้องสนใจเศรษฐกิจจริง วันก่อนเพิ่งเห็นโฆษณาคอนโดฯ “ผ่อนเบาๆ ปล่อยเช่า กำไรเห็นๆ” อ้าว ทุกคนก็รู้ว่าไม่ได้ซื้ออยู่เอง แต่ขายความฝัน Gen-Y ที่อยากมี “เสรีภาพทางการเงิน” อายุสี่สิบจะใช้ชีวิตเดินทางท่องเที่ยว

“ดูแลสุขภาพ ดูแลโลก ซื้อหุ้น Health Care กับ Climate Change ไปด้วยกัน” นี่ก็ถูกจริตคนชั้นกลางฟีลกู๊ดยุครัฐบาลเตาถ่าน เหมือนละครหลังข่าว ดร.ไลฟ์โค้ช นักให้แรงบันดาลใจ พบรักนักธุรกิจหนุ่มกลุ่มบริษัทพลังงานสะอาด

ไม่ได้มองแง่ร้ายแต่เชื่อว่าลูกโป่งเศรษฐกิจโลกกำลังเจอลมกระโชกแรง ถ้าไม่แฟบก็โป่งจนแตก ประเทศต่างๆ อาจทยอยล้มละลาย แบบศรีลังกา แบบลาว และอีกหลายประเทศในแอฟริกา

คงเหลือประเทศผู้นำสามแกนมั้ง รอดอยู่ได้

ใบตองแห้ง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ