ใบตองแห้ง – การเมืองสายกลาง?

Home » ใบตองแห้ง – การเมืองสายกลาง?


ใบตองแห้ง – การเมืองสายกลาง?

กรณ์ จาติกวณิช ทิ้งหัวหน้าพรรคกล้าไปพัฒนาชาติ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พูดคำใหญ่เสียงดังกังวาน เปิดตัวเป็นประธานพรรคสร้างอนาคตไทย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทยตามคาด

ในการเลือกตั้งที่จะถึง ใครมีโอกาสสักเท่าไหร่ ที่แน่ๆ พรรคกล้ามองไม่เห็น จึงอพยพย้ายลำเรือ อันที่จริงไม่แปลกอะไร การตั้งพรรคย้ายพรรคเป็นธรรมชาติการเมือง เพียงแต่ไม่น่าตั้งชื่อพรรคให้คนสรวลเสเฮฮาว่า “ช่างกล้า”

เลือกซ่อมหลักสี่อุตส่าห์ได้ 2 หมื่นคะแนน ผ่านไปครึ่งปีไหงไม่เห็นอนาคต มองให้ลึกลงไปก็ต้องชมกรณ์กล้าตัดสินใจ ไม่มีพื้นที่การเมืองให้ไปต่อ เพราะแยกจากประชาธิปัตย์ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นแหลมคมกว่า ในแง่จุดยืนการเมือง ก็แข่งกันว่าใครอนุรักษ์ ใครขวากว่า ระหว่างพรรคกล้า พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยภักดี พรรครวมพลัง หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ใครจะด่าคนรุ่นใหม่ได้สะใจสลิ่มมากกว่า

เมื่อประชาธิปัตย์ยุคเฉลิมชัย-เดชอิศม์ ปรับตัวทิ้งภาพ “ดีแต่พูด” หันไปวางรากฐานการเมืองอุปถัมภ์ “บ้านใหญ่” กรณ์ก็ไม่มีทางเลือก ต้องจูบปาก สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ซึ่งอยากได้อดีตขุนคลังไปอัพเกรดพรรค ภายใต้จุดยืนเป็นกลาง ไม่เลือกข้าง ใครเป็นรัฐบาลร่วมได้ทั้งนั้น

การเลือกตั้งที่จะถึง พรรคใหม่ พรรคขนาดกลาง ขนาดเล็ก ไม่เพียงถูกบีบด้วยสูตร “หาร 100” พรรคใหญ่ได้เปรียบ พรรคกลางพรรคเล็กได้ ส.ส.น้อยกว่าสัดส่วนที่ประชาชนนิยมจริง

ในอีกมิติหนึ่งก็ถูกบีบจากการต่อสู้ทางอุดมการณ์ ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ประยุทธ์ รัฐประหารสืบทอดอำนาจ รัฐบาลไร้ฝีมือไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งพรรคเพื่อไทยปฏิบัติการจิตวิทยา “แลนด์สไลด์” ปลุกคนให้เลือกเพื่อไทยเท่านั้นจึงเปลี่ยนรัฐบาลได้ เลือกเพื่อไทยเท่านั้นจึงแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ (ทั้งที่เพื่อไทยยังไม่ได้เปิดนโยบายหมัดเด็ดอะไรเลย แต่คนเชื่อฝีมือเก่า)

อีกมิติหนึ่งที่ตีคู่มาอย่างน่ากลัว คือการเมืองอุปถัมภ์ ระบอบบ้านใหญ่กินรวบทั้งจังหวัด “ประชาธิปไตยกินได้อิ่มหมีพีมัน” ไม่ต้องชี้ตัวก็เห็นกัน พรรคไหนอ้าปากกว้างดูด ส.ส.ไม่จำกัด ต่างตอบแทนด้วยโควตารัฐมนตรี งบประมาณ โครงการลงพื้นที่ “การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์” อย่างโจ๋งครึ่ม

“การแข่งขันทางการเมืองเริ่มมีลักษณะเหมือนการแข่งขันในสนามม้า มีม้าแข่งที่ต้องซื้อ มีคอกที่ต้องมีเจ้าของ และคอกก็ต้องหาเงินมาเลี้ยงม้า สิ่งเหล่านี้ที่ผ่านมาแม้มีมาตลอด แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทุกคนรู้ว่ามันมีอยู่ โจ๋งครึ่มเกินไป”

อย่างที่สมคิดพูดนั่นแหละ แต่คนฟังอดหัวเราะไม่ได้ ใครนะ ตั้งพรรคกวาด ส.ส.เข้าคอกให้ประยุทธ์เมื่อปี 62 ไม่หันไปดูหน้าสองกุมารหน่อยเหรอ

ความหวังของสมคิดอยู่ตรงไหน เดาได้ไม่ยาก เมื่อดูจากความขัดแย้งทางการเมือง 3 ปีที่ผ่านมา ฟากหนึ่งคือรัฐประหารสืบทอดอำนาจ พรรคพลังประชารัฐรวมศูนย์อยู่ที่ป้อม “ใจบันดาลแรง” พรรคภูมิใจไทยมาแรงด้วยบุรีรัมย์โมเดล เอางบประมาณโครงการลงพื้นที่ พรรคประชาธิปัตย์ก็ปรับตัวตามแต่ยังหวังกระแสคนชั้นกลางเก่าในเมือง

อีกฟากคือพรรคเพื่อไทย ซึ่งดูเหมือนมีจุดแข็ง แต่ยิ่งตีปี๊บแลนด์สไลด์ก็ทำให้คนที่เกลียดกลัวทักษิณยิ่งวิตก ขณะที่พรรคก้าวไกลก็ถูกตีตราเป็นพรรคต้องห้าม อภิปรายตั๋วช้าง อภิปรายงบสถาบัน

มันจึงมีช่องเสนอตัวแบบ “คนตรงกลางๆ” ที่เข้าใจภาคธุรกิจ คนมองว่ามีฝีมือทางเศรษฐกิจ เกลียดคอร์รัปชั่น (บุฟเฟต์คาบิเนต-ผมจึงวอล์กเอาต์) พร้อมทำความเข้าใจคนรุ่นใหม่ รีฟอร์ม กระจายอำนาจ ประชาชนมีส่วนร่วม บลาๆๆ

ที่ยกมาไม่ใช่ให้ความสำคัญสมคิดหรือแอนตี้สมคิด แต่อยากชี้ทิศทางของความพยายามสร้างการเมืองสายกลาง ซึ่งไม่น่าใช่สมคิดคนเดียว จะมีคนจำนวนไม่น้อยคล้อยตามว่าถ้าเพื่อไทยกลับมา ประเทศจะวุ่นวาย จะเอาทักษิณกลับบ้าน ฉิบหายแน่ เราไม่ได้เกลียดทักษิณแต่ถ้ามีม็อบปิดเมืองไล่อีกเราจะเดือดร้อน หรือไอ้พวกก้าวไกล พรรคล้มเจ้า ถ้าได้เข้ามาเยอะ ม็อบสามนิ้วก็ฮึกเหิมไม่เป็นอันทำมาหากิน บลาๆๆ

ในทางตรงข้ามก็อาจส่งผล เช่นถ้าประยุทธ์เป็นนายกฯ อีก ฉิบหายแน่ เอาคนอื่นดีกว่า เอามาบริหารเศรษฐกิจ ประเทศไทยต้องคบให้ได้ทั้งอเมริกา จีน รัสเซีย อย่าโง่ คนพม่าฆ่ากันตายก็ช่างมัน

เลือกตั้งครั้งหน้า ในพื้นที่อุดมการณ์ทางการเมืองจะสู้กันหลากหลาย (แม้บางพรรคไม่สนใจตลาดอุดมการณ์ มุ่งการเมืองอุปถัมภ์อย่างเดียว ไม่หวัง ส.ส.กรุงเทพฯ ปริมณฑล) เช่น ปีกขวาน่าจะไปรวมกันที่พรรครวมไทยสร้างชาติ “ขวาสุขุมวิท” หรือขวาแบบคนชั้นกลางระดับบน

ในอีกปีกหนึ่ง คนรุ่นใหม่ยังอยู่กับก้าวไกลมากกว่า แต่ระยะหลัง มีผลกระทบจากชัชชาติฟีเวอร์ “หาร 100” และปฏิบัติการจิตวิทยาของพรรคเพื่อไทย ซึ่งโน้มน้าวให้คนเลือกพรรคเดียวเพื่อเอาชนะรัฐบาล

แนวทางประนีประนอม ผสมการเมืองอุปถัมภ์ อาจเป็นอีกทางเลือกของเครือข่ายอนุรักษนิยม ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้อาจไม่ใช่สมคิด แม้อาจเป็นคนอื่น ที่อ้างว่ากลางๆ

กลางๆ นี่แหละน่ากลัวเพราะมันทำลายการต่อสู้มาเยอะแล้ว

ใบตองแห้ง

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ