ใจสลาย! ลูกสาวเรียนจบ ไปทริป มาเลเซีย กับเพื่อน ก่อนตกตึกชั้น 13 ดับ

Home » ใจสลาย! ลูกสาวเรียนจบ ไปทริป มาเลเซีย กับเพื่อน ก่อนตกตึกชั้น 13 ดับ
ตกตึกมาเลเซีย-min

ครอบครัวร้อง มูลนิธิปวีณา หลังรู้ข่าวลูกสาวไปเที่ยวกับเพื่อนที่ มาเลเซีย ก่อนพลัดตกตึก 13 ชั้น ดับในต่างแดน ด้าน พ่อแม่ติดใจสาเหตุการตก

วานนี้ 21 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 10.30 น. ที่ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางสาวนพรัตน์ อินปรุ อายุ 62 ปี พร้อมด้วย นายณรงชัย พันธ์สระน้อย อายุ 63 ปี 2 สามีภรรยาชาวโคราช ได้เดินทางจากต่างจังหวัด เพื่อมาร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณา โดยเรื่องที่มาร้องเรียนคือการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของลูกสาว ทราบชื่อ นางสาวนภา หรือ จ๋า พันธ์สระน้อย อายุ 21 ปี โดยพ่อแม่ของน้องจ๋าเล่าว่า

ลูกสาวเพิ่งเรียนจบระดับปริญญาตรี ได้พลัดตกจากตึกชั้น 13 ลงมาติดค้างอยู่ที่กันสาดชั้น 10 เสียชีวิต ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 ซึ่งแม่แปลกใจ และไม่รู้มาก่อนว่าลูกสาวเดินทางไปต่างประเทศ​ เพราะที่ผ่านมาได้นัดกับลูกสาวไว้แล้วว่าให้กลับบ้านมากินเลี้ยงปีใหม่พร้อมหน้าพร้อมตากันในวันที่ 15 มกราคม 2567 ซึ่งลูกก็รับปาก แต่ไม่ได้บอกแม่ว่าอยู่ที่ไหน แม่ก็เฝ้ารอลูกจะกลับมาบ้าน แต่ลูกก็กลับมาในสภาพที่ไร้วิญญาณ แม่ติดใจสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว

จากการสอบถาม นางสาวนพรัตน์ อินปรุ อายุ 62 ปี ผู้เป็นแม่ ได้เล่าเพิ่มเติมว่า ลูกสาวพึ่งเรียนจบปริญญาตรีและได้ลูกจักกับเพื่อนที่เรียนกันมาต้องแต่ชั้นประถมศึกษาซึ่งแม่อยู่ที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ส่วนลูกสาวอยู่หอพักกับเพื่อนที่ อ.เมือง จ.นคราชสีมา

ซึ่งเพื่อนของลูกสาวมีสามีเป็นคนมาเลเซีย แต่ลูกสาวไปประเทศมาเลเซียตั้งแม่เมื่อไหร่ตนเองก็ไม่รู้ ซึ่งเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 ที่ลูกได้ส่งข้อความทางไลน์มาหาตน ตนก็ยังคิดว่าลูกสาวอยู่ที่หอพักอยู่เลย ซึ่งเมื่อวันเกิดเหตุ (8 ม.ค. 67) มีคนโทรศัพท์มาบอกกับผู้ใหญ่บ้านว่าลูกสาวได้เสียชีวิตแล้วสาเหตุจากกระโดดตึก

จากนั้นผู้ใหญ่บ้านก็โทรศัพท์มาบอกหลาน และหลานก็ได้มาบอกกับพ่อ และพ่อก็มาบอกกับแม่ ซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวก็ยังทำใจไม่ได้และอยากจะรู้ความจริงเพราะไม่เจอว่าลูกสาวตนเองจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย จึงได้เข้ามาร้องทุกข์ที่มูลนิธิปวีณาฯ

ส่วนด้าน นางปวีณา หงสกุล กล่าวว่า ขณะนี้ทางมูลนิธิปวีณาได้ประสานรถจากมูลนิธิเพชรเกษมไปรับศพจากที่บ้านของผู้เสียชีวิตมาชันสูตรอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อตรวจสอบว่าสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตอีกครั้ง

  • กัน จอมพลัง พา เหยื่อแก๊งลูกตำรวจ อรัญประเทศ เข้าร้องต่อ DSI
  • บิ๊กต่อ สั่งกวาดล้าง แก๊งเยาวชน 10-15 ปี ห้ามออกนอกบ้านหลัง 4 ทุ่ม
  • เพจดังแฉ ค่าเคลียร์ตำรวจ ในการเปิดสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านปทุมธานี

ผลชันสูตรออกแล้ว

และล่าสุดนั้น วันนี้ 22 มกราคม 2567 นางปวีณา ได้เข้ามาดูแลความคืบหน้าหลังทำการชันสูตรร่าง น้องจ๋า เสร็จสิ้น าโดยนางปวีณา เผยว่า เบื้องต้นแพทย์ระบุผลชันสูตรพบว่าตามร่างกายมีแผลถลอกฟกช้ำเป็นรอยครูดทั่วตัว ที่คาง ไหล่ ก้น หลัง ต้นแขน และขาหนีบ ซึ่งเกิดจากการถูกของแข็งที่ไม่มีคมก่อนเสียชีวิต  และพบว่ากระดูกกะโหลกด้านหลังแตก กระดูกต้นขาหัก กระดูกข้อเท้าหัก กระดูกเชิงกรานหัก กระดูกสันหลังหัก ซี่โครงซ้าย-ขวา ด้านหลังหัก อวัยวะทุกส่วนหักหมด

นอกจากนี้ยังได้ตัดชิ้นส่วนตับ เพื่อไปตรวจดูสารพิษ และตัดเล็บไปตรวจหาเนื้อเยื่อหรือ DNA และทำการเก็บสารคัดหลังในช่องคลอด ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจจากห้องแลป เพื่อทราบผลอย่างละเอียด นางปวีณา กล่าวต่อว่า ครั้งนี้เป็นการผ่าตัดครั้งที่ 2 จึงมีข้อจำกัด เนื่องจากมีการผ่าพิสูจน์ครั้งแรกมาจากที่ประเทศมาเลเซีย และมีการฉีดฟอร์มาลีนมาแล้ว ทำให้มีข้อจำกัดในการตรวจสารพิษ หาเลือดไม่ได้เลยเพราะเลือดหมดแล้ว ปัสสาวะก็ไม่มี 

อย่างไรก็ตาม ทางด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตนั้นติดใจในสาเหตุการตาย และรู้สึกทำใจไม่ได้เพราะมีลูกสาวคนเดียว เพิ่งเรียนจบก็หวังจะเป็นเสาหลักครอบครัว ขณะที่ นางปวีณา กล่าวต่ออีกว่า ได้ประสานขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ. ตร. หรือ บิ๊กโจ๊ก ติดต่อตำรวจสากลและตำรวจมาเลเซีย เพื่อขอผลชันสูตรศพของน้องจ๋าในครั้งแรก

ตกตึกมาเล

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ